ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 20-09-2025, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,187
ได้ให้อนุโมทนา: 160,366
ได้รับอนุโมทนา 4,509,076 ครั้ง ใน 36,800 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงต้องมานั่งตูดด้าน ทำบัญชีที่ไม่ได้แยกแยะเงินสงฆ์ เงินสังฆทาน เงินส่วนตัว มาเป็นเวลา ๘ เดือนแล้ว ยิ่งทำก็ยิ่งปวดหัว ท้ายที่สุดก็ใช้วิธีว่า ๘ เดือนแรกไม่มีเงินส่วนตัว คือผลักเข้ารวมเป็นเงินสงฆ์ทั้งหมด..! เดือนที่ ๙ จึงแยกแยะเงินถวายส่วนตัวออกมา

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครตรวจสอบบัญชีของวัดท่าขนุน ย้อนหลังไปถึงศูนย์ปฏิบัติธรรมเกาะพระฤๅษี จะเห็นว่าในปี ๒๕๓๖ นั้น กระผม/อาตมภาพจะไม่มีเงินส่วนตัวอยู่ใน ๘ เดือนแรก เพราะว่าต้องตัดใจทิ้งไปเลย ขืนมัวแต่ไปค้นหายอดอยู่ ก็อาจจะเครียดจนเส้นเลือดสมองแตกไปเสียก่อน แล้วหลังจากนั้นถึงได้แยกแยะเงินส่วนตัวและเงินสังฆทานออกจากกัน

คราวนี้จากที่ท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินบรรยายมานั้น ประเภทเงินที่เกี่ยวข้องกับวัดมีอยู่ทั้งสิ้น ๔ ประเภท

ประเภทที่ ๑ เงินแผ่นดิน ได้แก่ เงินนิตยภัต หรือที่หลายคนแกล้งโง่เรียกว่า "เงินเดือนพระ" หรืองบประมาณที่ได้จากเงินอุดหนุนของภาครัฐ เช่นเงินอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัด หรือ เงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นต้น เงินประเภทนี้ต้องดำเนินการตามประกาศมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๑/๒๕๖๐

ประเภทที่ ๒ เงินผลประโยชน์ ได้แก่ เงินค่าเช่าที่ เงินจากการค้าขายสิ่งของของวัด เงินที่งอกเงยมาจากศาสนสมบัติของวัด เงินส่วนนี้ต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหา แต่ว่าวัดในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะมีการให้เช่าที่จัดประโยชน์บ้าง เช่าอาคารพาณิชย์ที่เป็นของวัดบ้าง ต้องปวดหัวมาแยกแยะออกจากบัญชีเงินส่วนอื่น

ประเภทที่ ๓ เงินจากการกุศล ได้แก่ เงินกฐิน เงินผ้าป่า หรือ
เงินบริจาคที่เจาะจงว่าให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ต้องจัดการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค หรือว่าตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ก่อนรับบริจาค

ประเภทที่ ๔ เงินส่วนตัว ได้แก่ เงินที่ถวายเพื่อใช้ส่วนตัวของพระภิกษุรูปนั้น ๆ หรือว่าเงินที่ออกกิจนิมนต์ต่าง ๆ ในส่วนนี้จะ
เป็นเงินที่ใช้ได้สบายใจที่สุด เพราะถือว่าเป็นเงินส่วนตัว ต่อให้ไม่ทำบัญชีเลยก็ได้ แต่กระผม/อาตมภาพก็ทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว แม้ว่าจะเป็นบัญชีอย่างง่าย ก็คือรับทางซ้ายจ่ายทางขวาก็ตาม แต่ก็ได้ทำมาจนสามารถตรวจสอบย้อนหลังไปจนถึงปี ๒๕๓๖ ก็คือปีที่ออกจากวัดท่าซุงมาอยู่ที่ทองผาภูมิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2025 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา