แต่จะว่าไปแล้ว บางทีกระผม/อาตมภาพก็อยากจะสมน้ำหน้าธนาคารอยู่เหมือนกัน ก็คือว่าหน้าที่ของท่าน ต้องเก็บรักษาเงินของลูกค้าไว้ให้ปลอดภัย แล้วยังนำเอาเงินของลูกค้าไปปล่อยกู้ หาประโยชน์ในทุกวิถีทาง แต่พอถึงเวลามีปัญหาขึ้นมา แทนที่ท่านจะช่วยลูกค้าแก้ปัญหา กลับใช้วิธีอายัดบัญชี เบิกไม่ได้ จ่ายไม่ได้ แถมยัง "โบ้ย" ภาระไปให้เจ้าพนักงานสอบสวนอีกต่างหาก เรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าท่านทั้งหลายมีใจในการบริการลูกค้าอย่างแท้จริง จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านสมควรแล้วที่จะต้องปวดหัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของญาติโยมทั้งหลายนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตื่นตระหนก แล้วก็เร่งถอนเงินสดออกมา เรื่องพวกนี้กว่าจะมาถึงเราไม่ใช่ง่าย ๆ ใช้วิธีค่อย ๆ ทยอยถอนออกทีละเล็ก ทีละน้อย ผ่านเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ ที่เรียกว่าเอทีเอ็มก็ได้ หรือว่าจะถอนโดยบัญชีหน้าเคาน์เตอร์ก็ได้ ถ้าทำแบบค่อยเป็นค่อยไป เรื่องตื่นตระหนกเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น
ทุกท่านจะต้องทำตัวเป็นบุคคลที่พร้อมอยู่เสมอว่า ถ้ามีภัยพิบัติก็ดี มีสงครามก็ตาม เราจะต้องเป็นผู้ไม่ประมาท ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้ อย่างน้อยก็ให้มีกระเป๋าเป้สักใบหนึ่งติดตัว มีเสื้อผ้าสำรองสัก ๒ ชุด อาหาร น้ำและยาเล็กน้อย เงินสดติดกายไว้นิดหน่อย อาวุธป้องกันตัว ไม่ว่าจะเป็นประเภทมีดหรือปืนตามที่เรามีหรือถนัด เครื่องยังชีพต่าง ๆ ที่จำเป็น อย่างเช่นว่าไม้ขีด ไฟแช็ก ตลอดจนกระทั่งเบ็ดตกปลา อะไรเหล่านี้เป็นต้น ท่านลองไปเสาะหาดู แล้วก็เตรียมการเอาไว้
ในส่วนของที่จะหมดอายุได้ เช่นบรรดาอาหารแห้ง หรือว่ายา ถึงเวลา ๓ เดือน ๖ เดือน เราก็เปลี่ยนใหม่ทีหนึ่ง ถึงเวลาเราฉุกเฉินขึ้นมา คว้าเป้สะพายหลังได้ ก็ออกจากที่พักได้ทันที โดยที่ไม่มีอะไรจะต้องมาเดือดร้อนวุ่นวายเหมือนกับคนอื่น อย่างน้อย ๆ เราก็อยู่ไปได้ ๓ วัน ๕ วัน เรื่องพวกนี้ถ้ารอจนเหตุเกิดขึ้นแล้วเราค่อยไปเตรียมตัว ส่วนใหญ่มักจะเตรียมการไม่ทัน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:49
|