ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า วันนี้, 01:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,387 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปร่วมงานครบรอบ ๑๓๘ ปี การสถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากได้พบกับครูบาอาจารย์เก่า ๆ แล้ว ยังมี FC วัดท่าขนุนย่องไปรอพบและรอทำบุญที่นั่นอีกจำนวนมาก จนพระเถระบางรูปถึงขนาดปรารภว่า "ท่านรู้จักคนมากขนาดนี้เลยหรือ ?" จึงเรียนตอบท่านไปแบบขำ ๆ ว่า "คนรู้จักผมมากกว่าครับ ผมไม่ค่อยรู้จักใคร..!"

คราวนี้ในส่วนของงานไม่ขอกล่าวถึง มีเรื่องที่อยากจะกล่าวถึง เพราะว่ามีคลิปลงสื่อโซเชียลมาหลายวันแล้ว ที่กล่าวว่า "การปลุกเสกเป็นอุตสาหกรรมแห่งความโง่ เป็นแหล่งรวมของคนปัญญาอ่อน" โดยอ้างถึงคำของพระนักเทศน์ชื่อดัง ซึ่งปัจจุบัน "มรณภาพและลงข้างล่างไปเรียบร้อยแล้ว" มาเป็นข้ออ้าง ซึ่งกระผม/อาตมภาพเอง แม้ว่าจะสงสารท่านขนาดไหนก็ช่วยไม่ได้ เพราะว่าออกแนวแบบบรรดาอินฟลูเอนเซอร์สายพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ที่ใช้คำพูดในลักษณะจาบจ้วง..!

สิ่งต่าง ๆ ซึ่งบรรดาครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งบรรพบุรุษของเราเชื่อถือและปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เพราะว่ารู้แจ้งเห็นจริง อย่างวาทกรรมประเภทที่ว่า "พระภูมิเจ้าที่ก็แค่เทวดาตีนโรงตีนศาล ทำไมต้องไปสร้างศาลเคารพนับถือด้วย ? ถ้าท่านเห่าได้แบบหมา แล้วค่อยเคารพนับถือกัน..!"

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วมีอยู่ตลอดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่จะไม่กล่าวถึงมากไปกว่านี้ จะขอกล่าวถึงเฉพาะในส่วนของการปลุกเสกวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่เจ้าของคลิปกล่าวว่า "เป็นแหล่งรวมคนโง่และคนปัญญาอ่อน..!"

ท่านทั้งหลายต้องดูก่อนว่า ก่อนที่จะมีงานปลุกเสกนั้นต้องสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา การสร้างวัตถุมงคลนั้น ต้องดูด้วยว่า "มีวัตถุประสงค์อย่างไร ?" อันดับแรกเลย ในยุคต้นเป็นการสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องเพราะว่าบุคคลรุ่นหลัง ๆ ไม่ได้มีโอกาสพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยตนเอง จะให้ระลึกถึงเฉพาะพุทธคุณก็หาความมั่นคงไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านจึงใช้วิธีสร้างรูปแทนองค์ขึ้นมา เพื่อที่จะได้มีเครื่องยึด ที่เรียกว่าพุทธานุสติ สร้างความมั่นคงในกำลังใจ อย่างน้อยก็มีวัตถุให้ยึดเกาะ ซึ่งถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมไปถึงช่วงสุดท้าย ก็เหมือนกับคนอาศัยเรือข้ามฝั่ง เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่เห็นมีใครแบกเรือไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 4 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)