ในนามของคณะสงฆ์ ขอถวายกำลังใจให้ทุกท่าน จงอดทนและพากเพียรบำเพ็ญกรณียกิจ เพื่อจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม และการปริยัตินิเทศก์ต่อไป อย่าได้ย่อหย่อนหรือหยุดยั้ง เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์ทั้งสองสถาน จักสำเร็จได้สมดังพุทธาณัติ ที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงมอบหมายให้พระสงฆ์ ต้องทำหน้าที่เผยแพร่พระสัทธรรม เพื่อเกื้อกูลมหาชนชาวโลกให้กว้างขวางที่สุด
ตราบใดที่ท่านยังคงหมั่นเพียร มีใจมั่นคงต่อหน้าที่ของพุทธบริษัทต่อไป โดยไม่หวั่นไหว รวนเรหรือท้อถอย ตราบนั้นท่านย่อมได้ชื่อว่าเป็นสมณะที่ดี เป็นอุบาสกอุบาสิกาตัวอย่าง เป็นผู้ทำการสักการบูชาพระรัตนตรัยด้วยการกระทำ จัดเป็นปฏิบัติบูชาที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ
และขอให้แน่ใจเถิดว่าการบูชาพระรัตนตรัยที่ท่านกระทำแล้วด้วยศรัทธา ย่อมมีผล และจักเป็นอิฏฐผลอันพึงปรารถนาด้วย สมดังพระพุทธานุสาสนีที่ว่า "ทานที่ให้แล้วมีผล ยัญที่บูชาแล้วมีผล" เมื่อท่านเป็นสัมมาทิฏฐิ มั่นใจแน่วแน่แล้วว่า ผลวิบากของกรรมดีหรือกรรมชั่วย่อมมีอยู่จริง จึงอดทนและพากเพียรปฏิบัติหน้าที่ของท่านทั้งหลาย ด้วยการคิดดี พูดดี ทำดี อย่างสม่ำเสมอ ท่านย่อมทำหน้าที่พระปริยัตินิเทศก์ได้อย่างอิ่มเอิบ เบิกบาน สมฐานะบัณฑิตผู้เฉลียวฉลาด มีความสามารถ สมควรแก่งานตามบทบาทหน้าที่ เพื่อทำประโยชน์ของตนให้สำเร็จลงได้"
เมื่อได้ยินพระโอวาทของสมเด็จสังฆบิดร ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบิดาของคณะสงฆ์ไทยทั้งหลายแล้ว ก็มีความรู้สึกว่า พระองค์ท่านมองปัญหาทุกอย่างรู้แจ้งแทงตลอด แต่ว่าการที่เราท่านทั้งหลายจะงอมืองอเท้า ก้มหน้าก้มตา ทำหน้าที่ในลักษณะของ "วัวงาน" ต่อไป ย่อมไม่ใช่ธุระเช่นนั้นแน่นอน เนื่องเพราะมีตัวอย่างที่ชัดเจนมาแล้ว จากมหาวิทยาลัยนาลันทาในประเทศอินเดีย ที่บรรดาคณะสงฆ์ใช้สันติและอหิงสา ต่อต้านการรุกรานของศาสนาอื่น แล้วก็โดนฆ่าฟัน เผาจนกระทั่งมหาวิทยาลัยราบคาบ ไม่เหลืออะไรให้เห็น นอกจากซากปรักหักพัง บรรดาพระสงฆ์ก็ต้องแตกกระสานซ่านเซ็น ออกไปยังประเทศต่าง ๆ จนกระทั่งพระพุทธศาสนาหมดไปจากอินเดีย เป็นเวลาหลายร้อยปี..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:17
|