ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 09-09-2025, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,097
ได้ให้อนุโมทนา: 159,883
ได้รับอนุโมทนา 4,505,423 ครั้ง ใน 36,708 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าทำไม่ได้เมื่อไร เปลี่ยนจากคนดูไปเป็นคนเล่น ท่านทั้งหลายก็จะเหมือนกับนักมวยที่ชกอยู่บนเวที พี่เลี้ยงเห็นช่องว่างรอยโหว่ ตลอดจนกระทั่งวิธีการเอาชนะในการต่อสู้ แต่ตะโกนบอกไปให้ตาย นักมวยหลายคนก็ทำไม่ได้..! เพราะว่าเวลาขึ้นไปชกด้วยตนเองแล้ว การที่จะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงก็ยาก จึงเป็นแนวทางที่ทุกคนควรที่จะนำไปทดลองปฏิบัติดู เพียงแต่ว่าต้องสร้างกำลังใจของตนเองให้มั่นคงให้ได้ก่อน

เหมือนอย่างสมัยที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ แล้วคณะสงฆ์เขาคิดว่ากระผม/อาตมภาพมักใหญ่ใฝ่สูง ต้องการจะเป็นเจ้าคณะอำเภอ จึงมีการปลุกม็อบทั้งชาวบ้านและคณะสงฆ์มาประท้วง กระผม/อาตมภาพก็ทำหน้าที่พิธีกรไปเลย ก็คือคอยสอบถามและส่งไมโครโฟนให้ทีละรูป ทีละคน ว่าใครต้องการจะพูดเรื่องอะไรก็ว่ามา ปล่อยให้ว่ากันได้เต็มที่..!

ทำเอาพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ซึ่งตอนนั้นคือพระครูปลัดปรีชา จิรนาโค โกรธจนหัวล้านแดงแทนกระผม/อาตมภาพเอง..! บอกว่า "มันด่าอาจารย์ขนาดนั้น แล้วยังไปทนฟังมันอยู่ได้..!" แต่กระผม/อาตมภาพไม่มีความรู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่า "ต้องทน" พูดง่าย ๆ ก็คือขณะที่เราวางแล้ว แต่คนอื่นกลับไปแบกแทน..!

การที่เราจะ "วาง" ได้ ก็ต้องประกอบไปด้วยปัญญา เห็นว่า "ธรรมดาของโลกเป็นอย่างนั้น" ในเมื่อธรรมดาของโลกเป็นอย่างนั้น เราจะไปกระโดดโลดเต้น รัก โลภ โกรธ หลง ตามไปก็เหนื่อยเปล่า ทำเป็นคนดูว่าแต่ละคนมีบทบาทอย่างไร ? คิดเห็นกับเราอย่างไร ? จะดีกว่า หรือไม่ก็ถ้ายังอยู่ในระดับที่แบกอยู่ ก็ต้องแบกแล้วรู้สึกว่าหนักน้อยที่สุด ด้วยการทรงสมาธิภาวนาให้เป็นปกติ ถ้าตราบใดที่จิตเราไม่หลุดจากการภาวนา รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะเกิดไม่ได้..!

แต่ว่าตรงจุดนี้ต้องระวัง เพราะว่าถ้าหากเราเผลอไปปรุงแต่งทีหลัง กิเลสจะมาเป็นฟ้าถล่มดินทลายตอนนั้น ตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพเจอมาเองก็คือตอนเป็นฆราวาส มีเจ้าถิ่นเมาแล้วมาถีบประตู ร้องด่าทักทายให้ออกไปชกกัน กระผม/อาตมภาพก็ทรงอารมณ์ใจเยือกเย็น ไปค่อย ๆ เกลี้ยกล่อมให้เขากลับบ้าน เพียงแต่ระยะเวลายาวนานเกินไป น้องชายก็คือพระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล ก็เลยดึง
กระผม/อาตมภาพออกมา แล้วเตะมันสลบคาตีนไปเลย..! กระผม/อาตมภาพก็ยังอุตส่าห์เมตตาแบกมันไปส่งที่บ้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2025 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา