ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ที่จังหวัดไหนก็ตาม ถ้าหากว่าอยู่ในส่วนของการตรวจซุ้มนิทรรศการแล้ว จะเห็นกระผม/อาตมภาพอยู่เคียงข้างองค์ประธานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) รองประธานคณะกรรมการอำนวยการ โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็ดี
พระเดชพระคุณพระเทพสมุทรวัชราจารย์ (จรัล สิริธมฺโม) รักษาการประธานกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง ก็ตาม
การติดตามใกล้ชิดนั้นไม่ใช่การเสนอหน้า หากแต่ว่าต้องพร้อมที่จะควักกระเป๋าให้รางวัลกับเด็กหรือนักแสดงที่มาออกนิทรรศการนั้น ๆ ถ้าหากว่าองค์ประธานไม่ได้เตรียมมา ก็ต้องควักกระเป๋าให้กับท่าน เพื่อมอบรางวัลให้กับเด็ก ๆ หรือถ้าเห็นว่าท่านให้น้อยไป กระผม/อาตมภาพก็ควักเพิ่มเติมให้อีก
เรื่องพวกนี้นั้น สำหรับกรรมการอื่น ๆ แล้ว ท่านมักจะหลีกออกห่าง เพราะว่ารายจ่ายแต่ละวันนั้นมากทีเดียว อย่างเมื่อวานกับวันนี้ก็หมดไปวันละ ๕,๐๐๐ กว่าบาท..! ท่านไปใช้จ่ายในส่วนอื่นที่ตกลงกันไว้ อย่างเช่นว่าให้ซุ้มนิทรรศการแต่ละแห่งมีรายได้อย่างน้อย ๑,๐๐๐ บาท เพื่อที่เขาทั้งหลายจะได้มีกำลังใจในการเดินทางมาร่วมงาน คณะกรรมการก็จะแยกย้ายกันไปซื้อสินค้าต่าง ๆ ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพต้องตามติดองค์ประธาน พร้อมที่จะควักกระเป๋าให้ท่านทันที ถ้าเห็นว่าท่านไม่ได้เตรียมการมา
เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเห็นว่า การให้ทุนการศึกษานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าตนเองเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่มีลูกมากถึง ๑๓ คน แม้ว่าจะเสียชีวิตไป ๑ คนตั้งแต่เด็ก แต่ว่าที่เหลือ ๑๒ คนนั้น แม่ก็มีนโยบายในลักษณะที่ว่า ลูกทุกคนต้องรู้หนังสือไทย "พ่อแม่ไม่รู้หนังสือไทย ทำอะไรก็เสียเปรียบเขา"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:50
|