กระผม/อาตมภาพต้องรอจนกระทั่งลูกศิษย์ของท่านเจ้าคุณกล้านำรถมาถึง ซึ่งเป็นรถยนต์โตโยต้า ๑ คัน และรถยนต์นิสสัน ๑ คัน กระผม/อาตมภาพจึงเลือกใช้โตโยต้า เพราะว่าเป็นรุ่นเก่าที่ตนเองเคยใช้งานมาก่อน
เมื่อขนย้ายข้าวของขึ้นรถแล้ว ก็ยังต้องมาปรับลมยางเสียก่อน เนื่องเพราะว่าคนอื่นมักจะเติมลมยางตามที่ทางศูนย์รถยนต์แนะนำให้ ก็คือมักจะเติม ๓๒ ปอนด์ทุกล้อ กระผม/อาตมภาพเองถึงเวลาก็ต้องมาลด ให้เหลือข้างหน้า ๒๖ ปอนด์ ข้างหลัง ๒๘ ปอนด์ กลายเป็นว่ารถยนต์ของตนเองนั้น ถึงจะเป็นรถตรวจการณ์ที่เรียกว่าเอสยูวี ก็วิ่งนิ่มพอ ๆ กับรถเก๋ง คนอื่นมานั่งก็มักจะสงสัยว่า "ไปแต่งรถมาหรือเปล่า ?" กระผม/อาตมภาพต้องยืนยันว่า "ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากปรับลมยางเท่านั้น"
เหตุที่ต้องให้ยางหน้าอ่อนกว่า ๒ ปอนด์ ก็เพื่อว่าถึงเวลาเข้าโค้งแล้ว ล้อหน้าจะได้ยุบตัวตาม ไม่เช่นนั้นถ้าหากว่ายางแข็งเท่ากัน ๔ ล้อ ด้านหน้าไม่ยุบตัวลง ถ้าไปเจอโค้งที่เขาทำไว้ไม่ดี อาจจะโดนดีดจนหลุดโค้งออกไปก็ได้..! แต่ถ้ายางหน้าอ่อนกว่า ถึงเวลายุบตัวตอนเข้าโค้ง ก็จะทำให้การเกาะถนนดีขึ้นอีกต่างหาก เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นประสบการณ์จากการที่ใช้รถยนต์มาหลายปี ตลอดจนกระทั่งเคยซ่อมรถยนต์ด้วยตนเองอีกต่างหาก
เมื่อถึงเวลาส่งมอบรถให้กับทางศูนย์แล้ว กระผม/อาตมภาพจึงได้เดินทางกลับวัด ตอนแรกก็คิดว่าจะไปทันเวลาทำวัตรค่ำ แต่เมื่อดูแล้ว น่าจะไปไม่ถึงแน่นอน เพราะว่ารถใหม่ต่อมือ ไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้ ต้องรอสร้างความคุ้นเคยกันไประยะหนึ่งก่อน จึงต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนบนรถ เพื่อให้ทุกท่านได้รับฟังต่อเนื่องไม่ขาดช่วง
เพียงแต่อยากจะย้ำกับทุกคนว่า ถ้าเราฝึกสติจนสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะมีปัญหาทางโลกหรือทางธรรม เราก็จะสามารถที่จะแก้ไขให้ทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ทุกท่านจึงไม่ควรที่จะทิ้งการภาวนา โดยเฉพาะลมหายใจเข้าออก หรือว่าอานาปานสติ ถ้าหากว่าสามารถทำจนรักษาอารมณ์ใจตนเองได้ เหตุใดเกิดขึ้นเราก็จะไม่หวั่นไหว มีแต่จะแก้ไขเหตุการณ์เหล่านั้นให้ผ่านพ้นไปด้วยดี
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : วันนี้ เมื่อ 00:30
|