วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดสว่างชาติประชาบำรุง ตำบลกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เพื่อทำการตรวจยกบ้านยางพัฒนา ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบประจำปี ๒๕๖๘
ในการตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ครั้งนี้ รูปแบบต่าง ๆ ก็คล้ายคลึงกับสถานที่อื่น เพียงแต่ว่าในระหว่างช่องว่างของกิจกรรม บรรดากรรมการต่าง ๆ กลับมาพูดคุยถึงการที่นายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งสร้างวีรเวรวีรกรรมไว้กับพระภิกษุสงฆ์เอาไว้มาก ทำหนังสือร้องเรียนต่อรักษาการนายกรัฐมนตรี เรื่องที่ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการโยกย้ายครั้งนี้ หรือว่าในการปรับเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ ที่ไม่มีชื่อของตนอยู่ด้วย ซึ่งถ้าหากว่าทุกท่านได้ฟังสิ่งที่กระผม/อาตมภาพพูดไปตั้งแต่ช่วงนั้น ก็จะได้ยินชัดเจนอยู่แล้วว่า บุคคลที่อยู่ในลักษณะเหยียบคนอื่นเพื่อก้าวขึ้นไปสู่ที่สูง บรรดาผู้บังคับบัญชาไม่มีใครโปรดบุคคลประเภทนี้ เนื่องเพราะว่าเผลอเมื่อไร ตนเองก็อาจจะถูกเหยียบไปด้วย..!
ดังนั้น..แทนที่บรรดาคณะกรรมการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านศีล ๕ จะกล่าวถึงเนื้อหาเรื่องราวของหมู่บ้านนั้น ๆ ตามที่เคยพูดคุยกันในครั้งก่อน ๆ ก็กลายเป็นว่ามาอนุโมทนากับผู้บังคับบัญชา ที่ไม่ปรับเลื่อนให้กับนายตำรวจท่านนั้น ต้องอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า "กรรมใดใครก่อ" บางท่านก็บอกว่า "ผลกรรมสมัยนี้ติดจรวด" ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่มีความเห็น เพราะว่าได้ให้ความเห็นไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
แต่ว่าอีกส่วนหนึ่งที่มีวิพากษ์วิจารณ์กันก็คือ การที่ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เชิญท่านแม่ทัพภาคที่ ๒ ไปงานของมหาวิทยาลัย แล้วมีนักศึกษาที่ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชนจำนวนหนึ่ง ได้ทำเอกสารประท้วง ในลักษณะที่ว่าแม่ทัพภาคที่ ๒ นั้น ยืนเหยียบอยู่บนซากศพทหาร ประมาณว่าอาศัยศพลูกน้องก้าวขึ้นไปสู่ความเป็นใหญ่..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-08-2025 เมื่อ 01:56
|