ก่อนปฏิบัติธรรมช่วงเช้า วันอังคารที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ 
 
  
ทางเขื่อนวชิราลงกรณ รับเป็นเจ้าภาพในการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ กับงานวันแม่ คาดว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็คงจะรับจัดไปเรื่อย ๆ แต่ที่มีปัญหาก็คือว่า ถ้าฝนมา พื้นที่อาคารจัดงานของเขื่อนจะเล็กไปหน่อย เพราะว่าทำไว้แค่เป็นห้องประชุมเท่านั้น ไม่ใช่อย่างศาลาวัดท่าขนุนที่ใหญ่พอจะเวียนเทียนกันได้ อย่างครั้งที่แล้วฝนมา ก็เบียดเสียดเยียดยัดกันใส่บาตรอยู่ในห้องประชุมภูมิสุวรรณ วุ่นวายดีเหมือนกัน 
 
เพียงแต่ว่าถ้าใจของเราสงบ ก็จะดูความวุ่นวายของโลกภายนอก อาตมภาพเห็นสองอย่าง อย่างแรก..เข้าถึงธรรมแล้วก็เห็นว่าปกติเป็นเช่นนั้น อย่างที่สอง..เวลาเรานิ่งแล้วเห็นคนอื่นกระโดดโลดเต้น ก็รู้สึกสงสารเขา ยังไม่รู้ว่าจะมีอย่างที่สาม อย่างที่สี่ อีกหรือเปล่า แต่เท่าที่ผ่านมาอาตมาเองเห็นอยู่ประมาณนี้ 
 
ใครที่ฟังสวดธัมมนิยามบ่อย ๆ 
 
อะถายัง  อิตะรา  ปะชา           ตีระเมวานุธาวะติ 
เย  จะ  โข  สัมมะทักขาเต        ธัมเม  ธัมมานุวัตติโน 
 
จะเห็นลักษณะของบุคคลที่วิ่งวุ่นวายไปหมด เพราะว่าไม่สามารถจะข้ามฝั่งวัฏสงสารได้ แต่พวกเราแปลบาลีไม่ออก เราลองนึกถึงว่ามีมดอยู่รังหนึ่ง แล้วน้ำท่วมมาใกล้รังเต็มทีแล้ว มดวิ่งพล่านไปหมด แต่หนีไม่ได้ ลักษณะของโลกมนุษย์เราก็ประมาณนั้น..! 
 
บางทีพระพุทธเจ้าท่านก็เปรียบว่าเหมือนกับเรือนที่โดนไฟไหม้ ก็คือไฟกำลังไหม้บ้านอยู่ ท่านก็เตือนเราว่า "ไฟไหม้มาจะถึงตัวแล้ว ยังจะนอนใจเย็นกันอยู่หรือ ?" เพราะว่ามนุษย์ส่วนใหญ่มักจะตกอยู่ในความประมาท
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พิชวัฒน์ : 28-09-2025 เมื่อ 20:23
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |