ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 23-08-2025, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,064
ได้ให้อนุโมทนา: 159,960
ได้รับอนุโมทนา 4,504,177 ครั้ง ใน 36,675 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งท่านเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย ในสมัยที่ออกมาแล้วยังไม่ได้เป็นพระครูภาวนาพิลาศ พอการก่อสร้างติดขัด มีการหยิบยืมเงินทองเมื่อไร กระผม/อาตมภาพก็รีบหามาให้ท่าน เพื่อที่งานสงฆ์จะได้ไม่หยุดชะงัก เหล่านี้เป็นต้น

ดังนั้น..ในเรื่องพวกนี้ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ถ้าเรามองงานใหญ่ มองภาพรวม เราก็จะสามารถทำตัวใจใหญ่ ใจกว้างได้ แต่ถ้าหากว่ามองแค่ตัวเอง ท่านทั้งหลายก็จะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ ตำหนิผู้อื่นว่าไม่ดีพอที่เราจะช่วยเหลือบ้าง ตำหนิผู้อื่นว่าต้องมาอาศัยตนเองบ้าง เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่ควรจะมีอยู่ในจิตในใจของพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เพราะว่านอกจากจะทำให้ตนเองขาดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ยังทำให้เกิดการแตกความสามัคคีขึ้นอีกด้วย

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงสรุปลงมาตรงที่ว่า ใครมีบุญคุณเราต้องทดแทน ใครสร้างความแค้นเราไม่จดจำ ใครวางก่อนก็สบายก่อน แล้วก็ถือปฏิบัติอย่างนี้ตลอดมา

สิ่งใดที่ล่วงเกินต่อผู้ใดก็ขอขมาในท่ามกลางที่สาธารณะ ถือว่าเราได้กระทำในสิ่งที่สมควรแล้ว เพราะว่ารักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม เมื่อขอขมาแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะให้อภัย หรือไม่ให้อภัย ก็แล้วแต่กิเลสในใจของท่าน กระผม/อาตมภาพถือว่าตนเองได้กระทำถูกต้องตามพระธรรมวินัยแล้ว สิ่งอื่นก็ไม่ได้คำนึงถึง..!

ดังนั้น..การที่ตนเองต้องเหนื่อยยากในการตรวจงานยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วยังต้องเดินทางไกลหลายชั่วโมงขึ้นมา ก็เพื่อทำหน้าที่ของตนในฐานะศากยบุตรพุทธชิโนรส ที่ต้องเอื้อเฟื้อต่อเพื่อนพระสหธรรมิกด้วยกัน ไม่ว่าท่านนั้นจะอยู่ในระดับครูบาอาจารย์ก็ดี อยู่ในระดับเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวก็ดี เป็นรุ่นน้อง รุ่นลูก รุ่นหลานก็ตาม

ถ้าเราสามารถวางกำลังใจลักษณะแบบนี้ได้ ถึงเวลาช่วยกันประคับประคองให้เดินหน้าไปด้วยกัน พระพุทธศาสนาของเราก็จะได้เจริญมั่นคง ถ้าท่านใดยังเลือกที่รักมักที่ชังอยู่ นั่นก็แล้วแต่กำลังใจของเขา เพราะกระผม/อาตมภาพไม่เคยสนใจเรื่องกำลังใจคนอื่น นอกจากพยายามรักษากำลังใจของตนให้อยู่ในด้านดีให้มากที่สุดเท่านั้นเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2025 เมื่อ 23:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา