ที่วัดบ้านช่นนี้ กระผม/อาตมภาพได้ออกไปเดินดูกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ของทางวัด ซึ่งมีเงินทุนสำรองอยู่ ๒๘ ล้านบาท คำว่า สัจจะออมทรัพย์ ก็คือสมาชิกที่สมัครเข้ามานั้น ต้องมีเงินออมเข้ากลุ่มเดือนละเท่า ๆ กัน ซึ่งที่นี่กำหนดเอาไว้เดือนละ ๑๐๐ บาท แล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ สิ่งที่ตอบแทนมาก็คือ ถ้าสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยค่าทำศพ ๙๕,๐๐๐ บาท หรือว่ามีสิทธิ์ที่จะกู้เงิน โดยที่ดูจากอัตราซึ่งตนเองส่งว่าจะกู้ได้มากน้อยเท่าไร แต่ว่าดอกเบี้ยร้อยละ ๑ บาทต่อเดือนเท่านั้น
แล้วก็ไปดูกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งทำงานกันอย่างเป็นระบบ ก็คือเมื่อผลิตปุ๋ยได้แล้วก็มอบให้กับทางโรงเรียนวัดบ้านช่น เพื่อที่ให้เด็ก ๆ นำไปใช้ในการปลูกผักต่าง ๆ แล้วทางโรงเรียนก็นำเอาผักนั้นมาประกอบอาหารกลางวัน เพื่อเลี้ยงนักเรียนอีกทีหนึ่ง จากนั้นพวกเราก็ไปดูกลุ่มผลิตมะพร้าวเผา ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้นก็คือในส่วนของสัมมาชีพ แปลว่าถ้าท่านไม่ลักขโมยแล้ว ยังต้องประกอบอาชีพที่สุจริตอีกด้วย ไม่ใช่ว่ารักษาศีล ๕ อย่างเดียวแล้วไม่ทำมาหากินอะไรเลย
แถมยังมีการไปดูการประมงพื้นบ้าน ที่เรียกว่าประมงเรือเล็ก ไม่สามารถที่จะออกห่างฝั่งได้มากนัก แต่ว่าทุกคนก็พออยู่พอกิน พวกเราไปกัน คนยังมองด้วยความสงสัยว่าพระมาหลายสิบรูป เพราะว่ามีทั้งทางพระสังฆาธิการของจังหวัดระยอง ตลอดจนกระทั่งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง เมื่อไปอยู่ในบริเวณที่เขาทำประมง อาจจะมีบางคนคิดว่า มาชื่นชมกับการที่เขาละเมิดศีลข้อปาณาติบาตหรือไร ?! โดยที่ไม่ได้คิดว่าเรามาดูเขารักษาศีลข้อไม่ลักขโมย แล้วยังปฏิบัติธรรมในข้อสัมมาอาชีพทดแทนไปด้วย
มีการไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ๒ ราย รายหนึ่งอายุ ๙๑ ปี อีกรายหนึ่งอายุ ๘๕ ปี เพื่อที่จะนำเอาข้าวของไปมอบให้ผู้ป่วย ตลอดจนกระทั่งผู้ที่ดูแลคนป่วยอยู่ ซึ่งนี่ก็คือหลักของการให้ทาน ตลอดจนกระทั่งเมตตากรุณาต่อกันนั่นเอง แล้วก็เหลือแต่กระผม/อาตมภาพที่ย้อนกลับไปยังวัดบ้านช่นเพียงผู้เดียว เนื่องเพราะว่าไม่ได้นำรถติดตามไปเหมือนกับคนขับรถอื่น ๆ เมื่อบอกลาท่านพระครูบำเพ็ญแล้ว ก็เดินทางกลับมาพักที่สวนป่าบุราณรัตน์อีกหนึ่งคืน วันนี้จะเดินทางไปยังบ้านอ่างกลาง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในด้านนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2025 เมื่อ 02:23
|