ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 15-08-2025, 21:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,968
ได้ให้อนุโมทนา: 159,519
ได้รับอนุโมทนา 4,500,631 ครั้ง ใน 36,579 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ไม่ควรที่จะมีขึ้นภายในประเทศที่เป็นพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าการที่กำลังใจของเรามองไม่เห็นความดีความงามของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย อะไรเกิดขึ้นก็เหมารวมกันทั้งหมด จัดว่าเป็นกำลังใจที่มืดบอดเป็นอย่างมาก แล้วก็น่าอัศจรรย์ที่ว่า เขาสามารถหาบุคคลที่มีจริตนิสัย และอุดมการณ์เหมือน ๆ กันจนตั้งพรรคการเมืองได้เสียด้วย..!

จึงต้องไปนึกถึงที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสกับพระอานนท์ว่า "อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ เห็นเหล่าภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระสารีบุตรหรือไม่ ?" พระอานนท์ตอบว่า "เห็นพระพุทธเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "นั่นแหละอานนท์ ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นเป็นผู้มีปัญญา"

"อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ เธอเห็นภิกษุทั้งหลายซึ่งคลุกคลีอยู่กับพระโมคคัลลานะหรือไม่ ?" พระอานนท์ทูลตอบว่า "เห็นพระพุทธเจ้าข้า" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "นั่นแหละอานนท์ ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นเป็นผู้มีวิสัยทางอภิญญาสมาบัติ"

แล้วก็ไล่ไปเรื่อยถึงพระเถระในสมัยนั้นอีกหลายรูปด้วยกัน จากนั้นพระองค์ท่านก็สรุปว่า บุคคลคบกันด้วยธาตุ ก็คือจะต้องมีจริตนิสัย หรือว่าคุณงามความดีใกล้เคียงกัน รักชอบในสิ่งที่เหมือน ๆ กัน จึงคบหากัน

เราจะเห็นว่าอย่างวัดท่าขนุนของเรา บุคคลที่ตั้งใจจะปฏิบัติธรรมถึงจะเข้ามา คนทั่ว ๆ ไปเขาไม่มาให้เสียเวลา เพราะว่าไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ คุณอยากจะได้รับการบอกใบ้ให้หวย หรือว่าในการต่ออายุ เสริมเสน่ห์ สะเดาะเคราะห์อะไร เราไม่มีให้ บุคคลที่ธาตุเดียวกัน คือจริตนิสัยรักในการปฏิบัติธรรมจึงจะมาที่นี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-08-2025 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา