ขณะเดียวกัน ก็ยิ่งสงสารบรรดาพระมหาเถระ กรรมการมหาเถรสมาคม ที่ท่านนั้นมีแต่ความซื่อตรง ความสุจริตจริงใจ คิดว่าทุกฝ่ายหวังดีปรารถนาดีต่อคณะสงฆ์ แล้วก็ลืมบริบทไปถึงพระหนุ่มเณรน้อยที่อยู่ไกลปืนเที่ยง ทำให้ไปยอมให้เขาออกกฎออกมาบีบบังคับ ข้อแนะนำที่ท่านได้ออกมาแล้ว นำเสนอมหาเถรสมาคม เกี่ยวกับวิธีการต่าง ๆ ที่ควรจัดการนั้น กระผม/อาตมภาพเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าระเบียบปฏิบัติทุกอย่างนั้นดีอยู่แล้ว สำคัญที่ตัวบุคคลเท่านั้น ไม่ใช่ว่าออกกฎมาปุ๊บ ตำรวจจะเลิกรีดไถ เลิกคอรัปชั่นทุกคน ถ้าอยู่ในลักษณะนั้นได้ ประเทศไทยคงจะดีเลิศประเสริฐศรีไปหมดแล้ว..!
ดังนั้น..กฎหมายที่ท่านทั้งหลายออกมา ทำให้พระภิกษุสามเณรของเราเดือดร้อน พยายามที่จะสนองงานผู้บังคับบัญชา โอกาสที่ตนเองจะประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมให้ดีก็น้อยลง ต้องมากระโดดโลดเต้นในการที่จะทำเอกสารต่าง ๆ จนไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน เดือดร้อนกันไปหมด
ในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านตั้งสติเพียงเล็กน้อย สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ทางคณะสงฆ์เรา มีพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ก็ดี มีกฎนิคหกรรมก็ดี มีระเบียบ มติ คำสั่งมหาเถรสมาคมแล้วก็ตาม ไม่ต้องดิ้นรนไปเต้นตามเขาหรอกครับพระเดชพระคุณท่าน เราอยู่ของเราดี ๆ แล้ว ถ้าใครยื่นหัวเข้ามาก่อกวนมาก ขอเพียงให้บอกพระหนุ่มเณรน้อยของเราเท่านั้น เดี๋ยวก็จะมีคนยื่นมือไปเขกหัวที่ยื่นเข้ามาให้เอง..!
สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๑๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2025 เมื่อ 01:10
|