อยากจะบอกว่า ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ทำผิด แต่อยู่ ๆ มีตำรวจบุกเข้าไปในบ้าน ท่านคิดว่าภาพพจน์นี้จะออกมาดีงามหรือไม่ ? แล้วขณะเดียวกันคณะสงฆ์ที่ไม่ได้ทำผิด ถึงเวลาตำรวจบุกเข้าไปแล้ว สายตาชาวบ้านจะคิดว่าท่านบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่ ? ในเมื่อไม่มีการที่จะประกาศผลเลยว่า ท่านทั้งหลายทำผิดหรือไม่ได้ทำผิด
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็สรุปได้ว่า ข้าราชการโง่ ๆ เสนอวิธีการโง่ ๆ ให้ผู้มีอำนาจโง่ ๆ ที่ออกกฎออกมาบังคับ แล้วก็ต้องทำให้บรรดามหาเถระของเรา ซึ่งค่อนข้างจะมองโลกในแง่ดี เห็นด้วยและทำตาม โดยที่ลืมบริบทของลูกพระลูกเณร โดยเฉพาะท่านที่อยู่สุดกู่ปลายตะโกน "ห่างไกลปืนเที่ยง" ปีทั้งปีไม่ทราบเหมือนกันว่าจะมีกิจนิมนต์สักครั้งหรือเปล่า ?
เรื่องนี้ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพกล่าวลอย ๆ สามารถยกตัวอย่างได้อย่างชัดเจน เพราะว่าตนเองส่งเจ้าอาวาสไปอยู่ที่วัดพุทธบริษัท หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ๓ ปี มีกิจนิมนต์ครั้งเดียว ได้รับปัจจัยมา ๑๐๐ บาท..! ท่านคิดว่าลูกพระลูกเณรที่อยู่ลักษณะแบบนี้ จะอยู่ได้หรือไม่ ? ถ้าไม่ได้รับการเจือจุนจากผู้อื่น จนกระผม/อาตมภาพต้องตั้งเงินเดือนให้เจ้าอาวาส จนกระทั่งท่านสามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้แล้ว ถึงได้ยกเลิกในการตั้งเงินเดือนนั้นไป
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เมื่อท่านเห็นว่าพระภิกษุสงฆ์สามเณรเป็นผู้ร้าย เป็นภัยคุกคามที่ต้องจัดการ แต่ปรากฏว่ากลายเป็น "ออฟไซด์" ล้วงลูกข้ามหน่วยงานบ้าง กลายเป็นต้องมา "ไล่เช็ดขี้" ที่ตนเองถ่ายเรี่ยราดเอาไว้บ้าง ก็เกิดจากบรรดาบุคคลที่โง่แล้วขยันนั่นเอง เห็นแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจแทน แล้วก็สงสารหน่วยงานที่ดูแลพระพุทธศาสนาอยู่ อย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ต้องมาเช็ดขี้ที่หน่วยงานอื่นโยนให้กับท่าน..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2025 เมื่อ 01:08
|