แล้วทางด้านฝ่ายบ้านเมืองก็รุกคืบเข้ามา ในลักษณะขอตรวจสอบทุกวัด โดยที่ตนเองก็ไม่ได้มีอำนาจในการตรวจสอบ เนื่องเพราะว่าเป็นการข้ามหน่วยงานเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่มหาเถรสมาคมของเราต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามที่มีคำพูดชุ่ย ๆ ห่วย ๆ ประเภทที่ว่า "ถ้าไม่ทำผิดแล้วต้องกลัวอะไร" ขึ้นมา
แต่กลายเป็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ในสายตาญาติโยมก็คือคณะสงฆ์กลายเป็นผู้ร้ายทั้งหมด เพราะว่ามีตำรวจบุกเข้าไปที่วัดโน้นวัดนี้ แม้ว่าจะเป็นการทำการตรวจสอบ แต่ตำรวจไม่มีการประกาศว่าตรวจสอบแล้วพระบริสุทธิ์ ก็แล้วแต่ชาวบ้านเขาจะคิดไป ซึ่งการคิดของคนนั้นก็มักจะคิดได้ชั่วร้ายมากกว่าสิ่งที่บุคคลอื่นทำอยู่เสมอ ทำให้เกิดความเสียหายกับคณะสงฆ์อย่างรุนแรง จนกระทั่งชักชวนกันอยู่ในลักษณะที่ว่า ไม่ควรที่จะไปทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีก
ขอให้ท่านทั้งหลายลองตรึกตรองดูว่า องค์กรพุทธบริษัท ๔ ก็คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งให้การอุปถัมภ์ค้ำจุนกันทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่สมัยพุทธกาลมาจนถึงปัจจุบันก็ดี ทฤษฎีบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรก็ตาม ต้องมาล่มสลายลง เพราะการกระทำในลักษณะ "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" อยู่ในลักษณะที่ว่าถ้าเหยียบพระภิกษุสามเณรขึ้นไปแล้วตนเองจะเด่นของบุคคลแค่บางคนเท่านั้น ทำให้การร่วมมือระหว่างวัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการ ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรานั้น ได้ทรงคิดมาด้วยความรอบคอบแล้ว ถึงได้พระราชทานพระราชดำริลงมา ต้องพังทลายลงไปจนหมดสิ้น..!
กระผม/อาตมภาพได้รับข้อความจากบรรดาเพื่อนพระสหธรรมิกก็ดี เพื่อนพระสังฆาธิการก็ตาม บอกว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทางส่วนราชการใด ๆ มาขอความร่วมมือจากทางวัด ทางวัดก็จะไม่ให้ความร่วมมืออีก จะขออยู่ในที่ตั้งของตนเอง สิ่งต่าง ๆ ที่เคยอุดหนุนสนับสนุนให้กับบุคคลที่อยู่รอบวัดก็คงต้องงดลง เพราะว่าการทำบุญนั้นหายไปเกินครึ่ง แค่ให้มีค่าน้ำค่าไฟในแต่ละเดือนก็ยากแล้ว..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างร้ายแรง ชนิดที่คิดไม่ถึง เพราะว่าก่อให้เกิดการแตกสามัคคีไปทั่วทั้งประเทศไทย..! กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หวังว่าพระเถรานุเถระ โดยเฉพาะเจ้าคณะปกครองของเราจะสามารถทุ่มเทสติปัญญา หาทางออกที่นุ่มนวลที่สุดให้กับลูกพระลูกเณรของท่าน ทางคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิของเรา คงสามารถทำได้แค่ที่เล่าให้ท่านทั้งหลายฟังเท่านั้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2025 เมื่อ 02:46
|