วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๙ เท่ากับว่าพระเณรของเราเข้าพรรษามา ๑ เดือนเต็มแล้ว เพียงแต่ว่าสามเณรหรือว่าแม่ชี ไม่ได้มีข้อกำหนดว่าจะต้องอยู่ประจำที่เหมือนกับพระภิกษุสงฆ์ ภาษาชาวบ้านเรียกง่าย ๆ ว่า "ไม่นับพรรษา"
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ลำบากแต่พระเรา ถึงเวลาก็ต้องขออนุญาต ที่เรียกว่า "สัตตาหะกรณียะ" คือ ถ้ามีเหตุจำเป็นในช่วงพรรษา สามารถที่จะออกจากวัดได้ แต่ต้องไม่เกิน ๗ วัน ซึ่งพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางอีกแล้ว เพราะว่ามีงานประชุมอบรมพระนวกะ ๒ อำเภอ ก็คือของอำเภอพนมทวน และอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรีรออยู่ พร้อมกับงานปลุกเสกวัตถุมงคลอีก ๑ งาน ก็ต้องขอสัตตาหะฯ เช่นกัน
ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของพระที่จะดูแลหรือว่าประพฤติปฏิบัติกันเอง แต่ว่าญาติโยมฟังไว้เป็นข้อมูลก็ดี อย่างเช่นช่วงสงคราม ๕ วันที่ไทยรบกับเขมรที่ผ่านมา ทางราชการไปขอร้องให้พระท่านย้ายออกจากวัดไปที่ศูนย์อพยพ พระท่านบอกว่าในเมื่อไม่แน่ใจว่าจะต้องย้ายนานเท่าไร เกรงว่าจะขาดพรรษา จึงขออยู่กับวัด พูดง่าย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นจะรับผิดชอบชีวิตของท่านเอง..!
แล้วมีคนสงสัยว่า ถ้าหากว่าไปเกินเวลาลักษณะแบบนั้น ถือว่าขาดพรรษาหรือไม่ ? อันดับแรกเลย ถ้าหากว่ามีการขอสัตตาหะกรณียะ กลับมาก่อนสว่างของคืนที่ ๗ ไม่ขาดพรรษา
ประการที่สอง ถ้าหากว่าขอสัตตาหะฯ ไม่ทัน อย่างเช่นว่าวิ่งหนีลูกระเบิด ออกพ้นเขตที่ตนเองจำพรรษาไป แล้วไม่สามารถที่จะกลับมาได้ เพราะว่ามีการรบติดพันอยู่ ขาดพรรษาแต่ไม่ต้องอาบัติ ก็คือพระสงฆ์ของเราถ้าไม่จำพรรษา จะโดนปรับอาบัติปาจิตตีย์ข้อ "ไม่เอื้อเฟื้อพระวินัย" แต่ถ้าเป็นเหตุจำเป็นดังที่ได้กล่าวมา ถึงขาดพรรษาก็ไม่ต้องอาบัติ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2025 เมื่อ 02:32
|