วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดโสภา หมู่ที่ ๒ บ้านกระดีแดง ตำบลโพประจักษ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อทำการตรวจยกบ้านกระดีแดงขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบประจำปี ๒๕๖๘
คำว่า "กระดีแดง" ในที่นี้ก็คือ "กุฎีแดง" ก็คือกุฏิที่มีสีแดงนั่นเอง สมัยก่อนการก่อสร้าง ถ้าหากว่าเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแล้วหลังไม่ใหญ่จะเรียกว่า "กุฏิ" แล้วภาษาชาวบ้านก็เพี้ยนเป็น "กุฎี" แล้วกลายเป็น "กระดี" ถ้าหากว่าเป็นหลังใหญ่ก็จะเรียกว่า "ตึก" ดังนั้น..เราจะเห็นว่ามีวัดศาลาตึกบ้าง วัดกุฏิตึกบ้าง เป็นต้น
คราวนี้ภาษาชาวบ้านเมื่อนานไป คนไม่ค่อยจะรู้ภาษาโบราณ ก็เลยไปสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า "กระดี่แดง" หมายถึงปลากระดี่ที่มีสีแดง ซึ่งกระผม/อาตมภาพยังไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องเพราะว่าตั้งแต่เด็กมาก็หากุ้งหาปลาเป็นปกติ ปลากระดี่ที่พบก็มีแต่สีเงินทั้งสิ้น นาน ๆ จะมีสีทองหลุดมาสักตัวหนึ่งก็ตื่นเต้นกันใหญ่
เมื่อเอามาเลี้ยงไม่นาน ก็กลายเป็นปลากระดี่เงินไปหมด ถึงได้รู้ว่ากระดี่สีทองนั้น ที่แท้เราจับมาจากคูน้ำข้างถนนที่น้ำขุ่นเหมือนสีโอวัลติน ก็เลยทำให้ปลากระดี่มีการปรับสีของตนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เพื่อพรางตัวจากศัตรู จึงทำให้มีสีออกมาไปทางเหลืองทอง ครั้นเอามาอยู่ในน้ำใสปกติ เพียงไม่กี่วันก็ปรับตัว กลายเป็นปลากระดี่สีเงินเหมือนเดิม
ดังนั้น..จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปลากระดี่แดง นอกจากจะเป็นปลาต่างประเทศ เพราะว่าปลาประเภทเดียวกันแล้วตัวใหญ่กว่าก็คือปลาสลิด ที่ไม่ได้เป็นเหมือนปลากระดี่ เพราะว่าถ้าตัวไม่โตนัก ก็จะมีลายเหมือนลายเสือเล็ก ๆ อยู่ ครั้นตัวโตแล้ว ลายก็หายไปหมดเช่นกัน
กระผม/อาตมภาพจึงฟันธงว่าหมู่บ้านนี้มาจากคำว่า "บ้านกุฏิแดง" แล้วภาษาชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ก็กร่อนเป็น "กระดีแดง" เพียงแต่คนรุ่นใหม่ไปคิดว่าเป็น "กระดี่แดง" เพราะว่ารูปการเขียนพ้องกัน ขาดแต่ไม้เอกตัวเดียวเท่านั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : 07-08-2025 เมื่อ 17:57
|