ปัจจุบันนี้ที่เขาห้ามพกโน่นพกนี่ขึ้นไปบนเครื่องบินก็เพราะอย่างนี้ เอาแค่ว่าด่างทับทิมธรรมดา ๆ กับกลีเซอรีนที่พวกเราก็เห็นว่าเป็นน้ำยาหล่อลื่นบ้าง เป็นโลชั่นทาผิวบ้าง สองอย่างนี้ผสมกันเมื่อไรระเบิดเมื่อนั้น ต่อให้ไม่ระเบิดก็ลุกเป็นไฟ นั่นเป็นของพื้น ๆ เลย และถ้าหากว่าใส่น้ำตาลทรายเพิ่มเข้าไป หรือถ้าหากว่ามีปุ๋ยยูเรียใส่เพิ่มเข้าไป โอ้โห..คราวนี้บรรลัย ตึกทั้งหลังก็ไม่เหลือ..! เขาถึงได้ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องพวกนี้ ด้วยการไม่ให้เอาของเหลวเกิน ๑๐๐ มิลลิลิตรขึ้นเครื่องบิน
ระเบิดรุ่นหลัง ๆ ตั้งแต่ตอนที่อาตมภาพเป็นทหารคือซีโฟร์ (C4) เป็นแท่งระเบิดลักษณะเหมือนอย่างกับแป้งอัดเป็นก้อน ขว้างกบาลกันเล่นก็ได้ไม่เป็นไร..ไม่ระเบิดหรอก..! แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อปะทุที่เป็นตัวจุดระเบิดยัดเข้าไป แล้วก็กดปุ่ม รับประกัน..ตึกทั้งหลังก็ไม่เหลือ..! แต่แรงอัดต้องได้ระดับถึงจะระเบิด
อาตมาเคยทดลองครั้งแรกใช้ครึ่งปอนด์ เป็นแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวประมาณเกือบหนึ่งคืบ พร้อมกับเชื้อปะทุหนึ่งดอก ยัดเข้าไปเสร็จ ก็เอาไปซุกโคนต้นไม้โตเป็นโอบเลย หลังจากนั้นก็ลากสายออกมา ๒๐ เมตร แล้วก็จุดชนวน ต่างคนต่างหลบกันเอง ทหารเขาจะมีรหัสตะโกนบอกเพื่อน "จุดระเบิด..เข้าที่กำบัง" พอบึ้มขึ้นมา..ต้นไม้ทั้งต้นกลายเป็นเสา..กิ่งก้านไม่มีเหลือเลย โดนระเบิดขาดหมด ใบทั้งต้นกลายเป็นผงสีเขียว ๆ เท่านั้น..! ไม่ได้เป็นใบนะ..เป็นผงเลย..! นั่นแค่ระเบิดครึ่งปอนด์ แล้วลองคิดดูว่าถ้ายัดไป ๒ - ๓ ปอนด์แล้วจะเกิดอะไรขึ้น..!?
ระยะหลังเขาสามารถที่จะผลิตให้อยู่ในลักษณะเหมือนกับดินน้ำมัน ปั้นเป็นรูปอะไรก็ได้ ปั้นเป็นเส้นแล้วเอาไปล้อมต้นเสาไว้ พอเชื้อปะทุบึ้ม เสาก็ขาดไปทั้งต้น..! สมัยนี้แม้กระทั่งหมากฝรั่งก็ไม่ให้เอาขึ้นเครื่องบิน เพราะว่าคล้ายกับดินระเบิดรุ่นใหม่ ๆ จริง ๆ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:57
|