เณรหมายเลขสองแถวแรกนั่นใคร ? ไม่เคยมาก่อนใครเลย..! เมื่อคืนก็มาเป็นคนสุดท้ายตอนที่เสร็จกรรมฐานแล้ว เป็นเณรที่วัดเรา ? แล้วหายหัวไปไหน ? แทนที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องใหม่ ดันกลายเป็นตัวอย่างที่เลว..! เดี๋ยวน่าจะต้องมีการแจกรางวัลให้ วัดท่าขนุนรวย แจกรางวัลพระเณรเป็นประจำ ถึงเวลาก็เอาไปคนละ ๓ ที ๕ ที ถ้าหลวงพ่อตีเองก็สาหัสหน่อย ถ้าคนอื่นตีก็เบาหน่อย..!
ตอนสมัยเรียนทหารอยู่ เขาแบ่งคนเป็นสี่จำพวก ไม่ใช่บัว ๔ เหล่านะ มีพวกฉลาดแล้วขยัน..เขาบอกว่าให้ไปอยู่แนวหน้า ส่วนพวกฉลาดแล้วขี้เกียจ..ให้วางแผนอยู่แนวหลัง พวกโง่แล้วขี้เกียจ..ให้ส่งไปอยู่กับพวกฉลาดแล้วขยัน จะลากถูลู่ถูกังกันไปได้ ส่วนพวกโง่แล้วขยัน..เขาบอกว่า..ยิงทิ้งให้หมด..! มีแต่สร้างความเสียหายให้กับหน่วยงาน
บางอย่างเราก็ไม่คิดว่าคนจะโง่ได้ขนาดนั้น รุ่นของอาตมภาพทั้ง ๆ ที่เรียนนักเรียนนายสิบ เขาถือว่าแต่ละคนมีการศึกษามาพอตัว เพราะอย่างน้อยต่ำสุดก็ต้องจบชั้น ม. ๓ ขึ้นไปเขาถึงจะรับ ตอนนั้นเป็นวิชาสงครามทุ่นระเบิด ด้วยความที่ฝึกกันในป่าก็มีของสูญหายบ้าง ก็ "โดนซ่อม..!"
คำว่า "ซ่อม" ก็คือ "ทำให้ดีขึ้น" แต่จริง ๆ ก็คือโดนลงโทษ อย่างเช่นว่า "นั่งกระโดด" บางคนใช้คำว่า "ลุกนั่ง" โดนไป ๑๕๐ ยก..! อื้อหือ..แค่ลุก ๆ นั่ง ๆ ร้อยครั้งก็แย่แล้ว..ใช่ไหม ? แต่นี่หนึ่งยกคือ ๔ ครั้ง ๑-๒-๓-หนึ่ง, ๑-๒-๓-สอง, ไล่ไป ๑๕๐ ยกก็ ๖๐๐ ครั้ง..! ส่วนใหญ่ทำครบแล้วก็กองกับพื้นหมด ถ้าเป็นสมัยนี้เขาบอกว่ากล้ามเนื้อสลายตัว..ใช่ไหม ? มีสิทธิ์ไตวายได้..! แสดงว่าทหารรุ่นอาตมภาพนี่อึดกว่าควายอีก ไม่เห็นเป็นอะไรสักคน ๑ - ๒ วันก็หายดีแล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:47
|