ถัดจากนั้นก็เป็นกระผม/อาตมภาพขึ้นไปสรุปให้ท่านทั้งหลายฟังอย่างเมื่อครู่นี้ แล้วปิดการอบรมโดยท่านพระครูสุวิมลกาญจนวัฒน์ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เจ้าอาวาสวัดพุทโธภาวนา
คราวนี้ท่านทั้งหลายที่ไปเข้ารับการอบรม จำได้อย่างที่กระผม/อาตมภาพย้ำเป็นรอบที่สองหรือเปล่า ? ถ้ารู้ตัวว่าจำไม่ได้ก็โปรดเลียนแบบคนโบราณด้วย "ไปไหนกระดาษกับปากกาให้ใกล้มือไว้เสมอ" ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะเสียประโยชน์ได้ เพราะว่าสิ่งนี้เป็นคำสอนของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง แล้วไปปรากฏชัดในวันพระใหญ่ที่ลงทบทวนพระปาฏิโมกข์
ขณะที่ทุกคนรอเทปบันทึกเสียง กระผม/อาตมภาพก็จดตามสิ่งที่หลวงพ่อท่านกล่าวมา ปรากฏว่าวันนั้นเครื่องบันทึกเสียงรวน ไม่มีใครได้เสียงหลวงพ่อที่ท่านสั่งสอนในวันพระใหญ่วันนั้นเลย..! ออกจากโบสถ์มา ทุกคนก็ฮือมาล้อมกระผม/อาตมภาพ "เป็นผึ้งแตกรัง" ประมาณว่าขอยืมโน้ตด้วย
พวกเราจะเห็นว่าเทคโนโลยีนั้นพึ่งพาไม่ได้ สิ่งที่พึ่งพาได้ก็คือ ๑ สมอง กับ ๒ มือ ถ้าพึ่งพาเทคโนโลยี ถึงเวลาเสียหายไป เราจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ในหัวเลย หรือถ้าไม่ได้จดบันทึกไว้ ถึงเวลาเลือนลางจืดจางไป ก็ทบทวนใหม่ไม่ได้
จึงฝากเอาไว้สำหรับพวกเราว่า แม้กระทั่งทุกวันนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังบันทึกประจำวันอยู่เสมอ โดยเฉพาะในสมัยที่เป็นครูบาอาจารย์สอนในวิทยาลัยสงฆ์ เราจะต้องส่ง SAR ก็คือ บันทึกการเรียนการสอนประจำวัน ด้วยความที่เป็นคนบันทึกเป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่ได้รู้สึกหนักใจ ขณะที่ครูบาอาจารย์ท่านอื่นประสาทจะกิน..! เพราะว่าไม่เคยชินที่จะทำอย่างนั้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2025 เมื่อ 02:55
|