| 
				  
 
			
			วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๓๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ในช่วงที่ผ่านมามีบางอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้มีคำสั่งลงไป อย่างเช่นที่ท่านเจ (พระนพรัตน์ ปฏิกาโร) ขออนุญาตในการถ่ายคลิปและเผยแพร่ธรรมะของวัดท่าขนุน แต่กระผม/อาตมภาพ "ฟันธง" ลงไปว่าไม่ให้ทำ เพราะว่ามีวิจารณญาณไม่พอ มีโอกาสจะสร้างความเสียหายให้กับวัดสูงมาก..!
 เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านถ่ายคลิปโดยที่ "ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือ" อะไรเลย แม้กระทั่งกระผม/อาตมภาพดุไปแล้วว่า ถ่ายจะเอาแต่ตัวเอง ไม่ได้สนใจว่าสามเณรนอนระเกะระกะไปหมด ก็ยังไม่รู้ตัวอีก พูดง่าย ๆ ว่า "กูวางท่าสวย เรียบร้อยดีแล้วกูก็ถ่าย" แต่ไม่ได้ดูว่ารอบข้างเป็นอย่างไร
 
 การทำงานอย่างนี้ก็คือการคิดถึงแต่ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้นึกถึงส่วนรวม เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นดีต่อตัวเองก็เป็นอันว่าจบ ก็แปลว่าวิจารณญาณไม่พอ สิ่งที่เราทำอาจจะสร้างความเสียหายให้กับส่วนรวมได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องไปฝึก ไปหัด ไปขัด ไปเกลากันอีกนาน สิ่งที่เรากล้าทำเป็นเรื่องดี แต่เมื่อถึงเวลารู้ว่าผิดพลาดตรงไหนก็ต้องแก้ไขด้วย ไม่ใช่ไปแบกความไม่พอใจไว้เป็นวันเป็นคืนจนนอนไม่หลับ..!
 
 ประการต่อไป วันนี้ที่กระผม/อาตมภาพประกาศหาผู้ทรงคุณวุฒิทางบัญชี ปรากฏว่าพรรคพวกเอาไปแชร์กันครึกครื้นภายในโซเชียล เนื่องเพราะคุณสมบัตินักบัญชีที่กระผม/อาตมภาพระบุไปก็คือ
 
 ๑)   ต้องเป็นชายไทย อายุไม่ต่ำกว่า ๒๕ ปี นับถือพระพุทธศาสนา ข้อนี้คัดลอกมาจากคุณสมบัติไวยาวัจกรโดยตรง
 
 ๒)  ต้องมีเวลาพอที่จะสละมาเพื่อทำบัญชีให้กับวัดทุกวัน
 
 ๓)  การทำงานถือว่าเป็นการกุศล ไม่มีเงินเดือนให้
 
 ๔)   ต้องพร้อมติดคุกไปพร้อมกับเจ้าอาวาสด้วย..!
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2025 เมื่อ 02:24
 |