ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-07-2025, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,877
ได้ให้อนุโมทนา: 159,054
ได้รับอนุโมทนา 4,497,090 ครั้ง ใน 36,488 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเภทที่ ๒ พระภิกษุนักเทศน์ แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท

๒.๑ พระภิกษุนักเทศน์เพื่อการเผยแผ่ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ยึดหลักธรรมจากพระไตรปิฎก เทศน์เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชน ควรค่าแก่การยกย่อง

๒.๒ พระภิกษุผู้เทศน์เพื่อชื่อเสียง มีการเทศน์แบบแหล่ ลีลาดี น้ำเสียงดี มีคณะและค่าตัวชัดเจน มุ่งสร้างชื่อเสียงแก่ตนเอง มากกว่าเผยแผ่ธรรมะอย่างแท้จริง

ประเภทที่ ๓ พระภิกษุสายวิชาการ มุ่งเน้นด้านการศึกษา เรียนปริยัติธรรมทั้งนักธรรม บาลี และความรู้ทางโลกในมหาวิทยาลัย ชีวิตวนเวียนอยู่กับตำรา การเรียน การสอน เพื่อวุฒิการศึกษาและความก้าวหน้าของตน

ประเภทที่ ๔ พระภิกษุนักพัฒนา แต่ละวันทุ่มเทอยู่กับงานก่อสร้าง ศาลา วิหาร เมรุ กำแพง วัดใหญ่โตมักจะมีพระภิกษุประเภทนี้เป็นกำลังหลัก

ประเภทที่ ๕ พระภิกษุนักปกครอง มุ่งสู่ตำแหน่งหน้าที่ซึ่งประกอบด้วยอำนาจ ยศศักดิ์ ตั้งเป้าว่าจะเป็นเจ้าอาวาส พระครู เจ้าคุณ หมกมุ่นอยู่กับอำนาจ มากกว่าบำเพ็ญสมณธรรม

ประเภทที่ ๖ พระภิกษุนักปฏิบัติ มุ่งขัดเกลากิเลส ปลีกวิเวก ฝึกจิต เดินจงกรม นั่งสมาธิ ไม่ข้องแวะกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ถือเป็นพระภิกษุผู้เจริญรอยตามพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง หาได้ยากยิ่งในยุคนี้

ประเภทที่ ๗ ประเภทสุดท้าย พระภิกษุผู้ไม่เอาไหนเลย บวชมาเพื่อพักผ่อน ไม่หวังทำประโยชน์อะไร ฉันเช้าแล้วเอน ฉันเพลแล้วนอน ไม่ศึกษาธรรมะ ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่ทำกิจของสงฆ์ อยู่กินข้าวฟรีไปวัน ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา