วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพฝ่าฝนไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งในช่วงนี้ของทุกปี ทางมหาวิทยาลัยมีการมอบรางวัลมณีกาญจน์ ให้กับผู้ที่สมควรได้รับในด้านต่าง ๆ ด้วยกัน ๖ ด้าน เช่น ด้านศาสนา ด้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
กระผม/อาตมภาพได้มอบปัจจัยจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท แก่ ผศ.,ดร.พจนีย์ สุขชาวนา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ตามที่เคยปฏิบัติเป็นประจำมาทุกปี เพื่อให้เป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนผู้ด้อยโอกาสของทางมหาวิทยาลัย
แล้วได้พูดคุยกับพลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ซึ่งเป็นประธานกรรมการสถานศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี และนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นขอตัวกลับสู่ทองผาภูมิ เพราะว่ามีงานสวดพระพุทธมนต์ อุทิศส่วนกุศลให้แก่ทหารกล้าผู้พลีชีพในสงครามไทย - เขมรช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ระหว่างที่เดินทาง เพื่อนฝูงก็ได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของภิกษุในเมืองไทยเข้ามาให้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำแนกประเภทของพระภิกษุออกเป็นหลายประเภท ตามสายตาของเจ้าของข้อมูล ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่า พระภิกษุเราในสายตาของญาติโยมนั้นมีสภาพอย่างไรบ้าง ควรที่เราท่านจะได้รู้ทั่วกัน จึงขออนุญาตคัดลอกข้อมูลมาลงในเสียงธรรมวัดท่าขนุนวันนี้ ดังต่อไปนี้
ประเภทที่ ๑ พระภิกษุเกจิอาจารย์ ประเภทนี้เน้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ปลุกเสกวัตถุมงคล แจกวัตถุมงคล บอกใบ้ให้หวย เป็นที่นิยมในหมู่ "สายมู" และชาวบ้านผู้หลงใหลความศักดิ์สิทธิ์ มักถูกมองว่าเป็น "ภิกขุพาณิชย์" มากกว่าผู้นำทางจิตวิญญาณ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:33
|