บรรดาข้าราชการต่าง ๆ ก็กล่าวคำขอบคุณที่ทางคณะกรรมการฯ มาให้กำลังใจและให้คำแนะนำ จะได้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยังชื่นใจ เนื่องเพราะว่ามีบุคคลบางพวกวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) นั้น เป็น "ปาหี่คุณธรรมระดับชาติ" สิ้นเปลืองงบประมาณเปล่า ๆ ควรที่จะเอาเงินไปสนับสนุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณร หรือว่าเด็ก ๆ จะดีกว่า..!
กระผม/อาตมภาพอยากจะให้ท่านทั้งหลายมาเห็นภาพนี้ ที่ทางวัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการ ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานนี้ขึ้นมา อวดให้คนอื่นเขารู้ว่าในท้องถิ่นของเรามีอะไรบ้าง ? โดยเฉพาะความรักใคร่สามัคคีและปรองดองสมานฉันท์ตามโครงการ ท่านจะเห็นว่ามีโครงการใดบ้างที่สามารถรวบรวม วัด บ้าน โรงเรียน และส่วนราชการเข้ามาได้ทั้งหมด นอกจากโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นี้
ดังนั้น..ในเมื่อไม่สามารถที่จะตีความคำว่า "ปรองดองสมานฉันท์โดยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา" ได้ถูกต้อง ต่อให้ท่านทั้งหลายทุ่มเทงบประมาณไปช่วยเหลือในด้านอื่นมากเท่าไรก็ตาม ก็เป็นการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" เสียเปล่า ๆ..!
อย่างเช่นว่ามีการทุ่มงบประมาณลงไปในเรื่องของ Soft Power ถึง ๕,๐๐๐ ล้านบาท ขณะที่โครงการของเรานั้น เป็นการไปขุดเอา Soft Power ของทุกหมู่บ้าน ทุกตำบลออกมา เพื่อที่จะแปรเป็นมูลค่า สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาหมู่บ้าน หรือว่าชุมชนนั้น ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าคิดกันอย่างไม่ลำเอียงแล้วจะเห็นว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณน้อยมาก แต่ว่าได้ผลมากมายมหาศาล โดยเฉพาะคณะกรรมการทั้งหมด ต้องเสียสละเดินทางมา และเดินทางกลับ โดยไม่มีงบประมาณสนับสนุนอื่นใด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:30
|