ตั้งแต่อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสมา พักเดียวจะ ๒๐ ปีแล้ว ยังไม่มีปีไหนที่มีพระน้อยกว่า ๓๐ รูป ถ้าใครต้องการเรียน..ส่งเรียนไปจนสุดกำลังของท่าน ไม่ใช่ของอาตมา ถ้าใครต้องการปฏิบัติธรรม..ติดขัดตรงไหนสอบถามได้ทุกขั้นตอน ดังนั้น..พระวัดนี้ก็เลยค่อนข้างจะแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ก็คือฝ่ายเรียนกับฝ่ายปฏิบัติธรรม แต่ก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
พระภิกษุสงฆ์และแม่ชีที่จบปริญญาเอกของจังหวัดกาญจนบุรีในช่วงแรกมีทั้งหมด ๑๓ รูป เป็นของวัดพระขนุนไป ๖ รูป เห็นแม่ชีหุงข้าวต้มแกงให้โยมอยู่ภายในวัด โยมก็ไม่รู้หรอกว่านั่นเป็นแม่ชีด็อกเตอร์ จบปริญญาเอกอยู่ ๒ รูป..!
อาตมภาพไม่มีกติกา เรียนจบปุ๊บสึกปั๊บก็ไม่ว่า แต่ว่าตอนที่อยู่ ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมก็ต้องเรียน ห้ามอยู่เฉย ๆ มีอยู่สาขาวิชาหนึ่งก็คือปริญญาโทการพัฒนาสังคม ส่งไปเรียนจบมา ๖ รูป สึกไปพัฒนาสังคมเสีย ๖ รูป..! ก็เลยบอกกับผู้อำนวยการหลักสูตรว่า "ต่อไปหลักสูตรนี้อย่าเลี้ยวไปทางวัดท่าขนุนอีก เพราะว่าดีเกินไป..! ทำให้พระบวชแล้วเห็นช่องทาง ถึงเวลาเรียนจบ ก็สึกไปพัฒนาสังคมกัน" เป็นอะไรที่ขำ ๆ ดี
ปัจจุบันนี้ถ้าเป็นพระภิกษุสามเณรอำเภอทองผาภูมิ ถ้าใครเรียนที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี มาเบิกค่ารถได้ที่วัดท่าขนุนเดือนละ ๓,๐๐๐ บาทต่อรูป พูดง่าย ๆ ว่าส่งเรียนทั้งอำเภอ ส่วนทุนการศึกษาระดับประถมและมัธยม ก็ให้ทั้ง ๓๔ โรงเรียนในอำเภอนี้ โรงเรียนประถมให้ ๒๐ ทุน โรงเรียนมัธยมให้ ๓๐ ทุน ปีหนึ่งก็หลายล้านบาท..! เพราะฉะนั้น.. "สีกากอล์ฟ" ไม่เลี้ยวมาวัดนี้หรอก เพราะว่ามีเงินเท่าไรก็ใช้หมด..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2025 เมื่อ 00:38
|