อาตมภาพรู้จักโยมท่านหนึ่ง ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน รถติดรถแน่นขนาดไหน ก็จะมีที่จอดรถทุกครั้ง แม้กระทั่งล่าสุดมาถวายภัตตาหารเพลในวันที่วัดอุทยานมีงาน ทุกตารางนิ้วมีแต่รถจอด กระผม/อาตมภาพส่งไลน์ไปว่าให้ทิ่มมาตรง ๆ หน้าประตูกุฏิริมป่าช้าเลย
แต่พออีกฝ่ายไลน์มาว่ามาถึงแล้ว โผล่ไปดูก็ไม่เห็นรถ สอบถามแล้วได้ความว่า พอวิ่งเกือบจะถึง ก็มีรถเลื่อนออกคันหนึ่งพอดี แล้วทุกครั้งก็จะอยู่ในลักษณะอย่างนี้ นั่นคือการได้รับความสะดวกในทุกที่ ตามอานิสงส์เดิมที่ตนเองเคยทำไว้
เพียงแต่ว่าพระภิกษุสามเณรของเราเมื่อจะรับก็ต้องพินิจพิจารณาให้รอบคอบ เพราะว่าพระพุทธเจ้ากำหนดฐานะของเราเหมือนกับขอทาน ต้องไปขอเขากิน ถ้าขอทานรวยก็คงไม่มีใครอยากให้อะไร
ทุกวันนี้ก็ด่ากันกระจายอยู่แล้ว ประมาณว่า "รวยฉิบหายเลยโว้ย บวช ๕ พรรษามีเงินเก็บมากกว่ากูทำงาน ๒๐ ปี" ถ้าจะอิจฉาพระขนาดนั้นทำไมไม่มาบวชวะ ? คือทุกคนจะพูดในลักษณะ "ตีหัวเข้าบ้าน" ด่าพระไว้ก่อน แต่ให้ตัวเองมาบวชไม่มีใครบวช ทั้ง ๆ ที่บอกว่า "บวชพระสบาย" อยากจะเห็นคนพูดสบายบ้าง..!
หลวงพ่อพฺรหฺมวํโสไปเทศน์ให้นักโทษในคุกที่ออสเตรเลียฟังว่า "พระต้องตื่นเจริญกรรมฐานตั้งแต่ตี ๔ ต้องเดินบิณฑบาตเป็นระยะทาง ๕ - ๑๐ กิโลเมตรกว่าที่จะได้ภัตตาหารมาขบฉัน กลับมาแล้วก็ยังต้องประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม เก็บกวาดวัด ถูศาลา เข้าที่จงกรม เจริญภาวนาเช้ายันค่ำ โดยเฉพาะห้ามมีเมีย ห้ามสะสมเงินทอง" นักโทษบอกว่า "หลวงพ่อสึกมาอยู่กับพวกผมเถอะ สบายกว่าตั้งเยอะ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:06
|