เรื่องของการเวียนเทียนเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ ธูป เทียน ก็คือการบูชาด้วยแสงสว่าง ของหอม แล้วก็ดอกไม้ ตามที่บาลีว่า
อันนัง ปานัง วัตถัง ยานัง อันนังคือข้าว ปานังคือน้ำ วัตถังคือผ้า ยานังคือยานพาหนะ
มาลา คันธัง วิเลปะนัง มาลาคือดอกไม้ที่ร้อยดีแล้ว คันธังคือของหอม วิเลปะนังคือเครื่องลูบไล้ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็น่าจะเป็นพวกโลชั่น แต่สมัยก่อนนั้นเป็นพวกน้ำมันสำหรับทาเท้า ป้องกันเท้าแตกเวลาเดินทางไกลเป็นวัน ๆ
เสยยาวะสะถัง ปะทีเปยยัง เสยยาคือเครื่องนอน มุ้ง หมอน ฟูก ผ้าห่ม วะสะถังคือเครื่องนั่ง โต๊ะ เก้าอี้ ปะทีเปยยังคือเครื่องตามประทีป ถ้าแปลตรงตัวก็น่าจะเป็นพวกไม้ขีดไฟแช็ก แต่ในที่นี้ท่านรวมทั้งพวกเทียนพวกตะเกียงอะไรไปด้วย เพราะว่าถ้ามีแค่ไม้ขีดไฟแช็ก ก็ไม่สามารถที่จะตามประทีปได้
ทานะวัตถู อิเม ทะสะ ทั้ง ๑๐ ประการนี้จัดเป็นวัตถุทาน คือของที่ควรถวายแก่บรรพชิต
แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่าพระพุทธเจ้าอนุญาตให้ญาติโยมถวายทานด้วยยานก็คือพาหนะ แต่ห้ามภิกษุขับยานที่เทียมด้วยสัตว์ เพราะว่าคนที่ไม่เข้าใจ จะไปโทษว่าพระเราทรมานสัตว์ คือเรื่องของยานพาหนะเป็นการอำนวยความสะดวก พระพุทธเจ้าไม่ได้หวังความสะดวกของพระภิกษุสามเณร แต่หวังอานิสงส์ความสะดวกจะเกิดแก่ผู้ถวาย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:03
|