ถ้าท่านเริ่มก้าวสู่อนุบาล ๑ ก็คือระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ลงได้ด้วยอำนาจของสมาธิ ท่านทั้งหลายก็จะเห็นคุณของพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งว่า แค่ก้าวแรกเท่านั้น เรายังมีความสุขจากการระงับกิเลสที่แผดเผาเราอยู่ตลอดเวลาลงไปได้ถึงเพียงนี้
แล้วบุคคลที่สามารถระงับได้เด็ดขาดกว่าเรา อย่างเช่นบุคคลที่ทรงฌาน ๔ หรือว่าสมาบัติ ๘ เขาทั้งหลายเหล่านั้นจะยิ่งมีความสุขมากกว่าเราสักเท่าไร ? ท่านทั้งหลายเหล่านี้ แม้ว่าจะมีความสามารถทางโลกียฌานสูงส่ง แต่ว่าก็ยังไม่พ้นจากอบายภูมิ
แล้วท่านที่ก้าวเข้าสู่ความเป็นพระโสดาบัน ปิดอบายภูมิโดยสิ้นเชิงนั้น ท่านจะมีความสุขขนาดไหน ?
แล้วพระอรหันตเจ้าที่พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด จะมีความสุขมากขนาดไหน ?
องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นจอมแห่งพระอรหันต์ทั้งหลาย พระองค์ท่านจะมีความสุขขนาดไหน ?
เราแค่อาศัยการก้าวเข้าถึงในส่วนของการปฏิบัติเพียงผิวเผินแค่นี้ ก็สามารถใช้ปัญญาตรึกตรองต่อไป จนเห็นคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแท้จริง ถ้าอย่างนั้น กำลังใจของท่านก็จะยึดมั่นในคุณพระรัตนตรัย ซึ่งเป็นนามธรรม คือเป็นพุทธรัตนะ ธัมมรัตนะ สังฆรัตนะอย่างแท้จริง
ถ้าแบบนี้ ท่านทั้งหลายก็แค่ทบทวนศีลของตนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2025 เมื่อ 01:58
|