แต่เท่าที่กระผม/อาตมภาพพบมา เกินกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์เอาไปใช้ผิด..! แทนที่จะรู้เพื่อละ ก็รู้แล้วไปฟื้นความสัมพันธ์กันใหม่ แทนที่จะหลุดพ้นได้ ต่างคนต่างยังลอยคออยู่ในทะเลทุกข์ ก็ไปเกาะกันเป็นพรวนแล้วก็จมตายไปทั้งหมด..!
แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวแล้ว กระผม/อาตมภาพก็คิดว่า ท่านมีลีลาคล้าย ๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือแสดงธรรมเจาะจงตัวบุคคล คนอื่นถ้าหากว่าได้ดีไปด้วยก็ถือว่าเป็นของแถม แต่ตัวบุคคลที่พระองค์ท่านต้องการสงเคราะห์นั้นต้องได้ดีแน่นอน..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้ ๙๙ เปอร์เซ็นต์เอาวิชามโนมยิทธิไปใช้ผิด จนโดนคนเขาตราหน้า มีคำพูดล้อเลียนลักษณะ "บูลลี่" ว่า "อย่ามโน" แต่ก็ยังมีลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่นำมโนมยิทธิไปใช้ได้ถูกต้อง ท่านจึงได้เสี่ยงสอน เพื่อที่จะให้สิ่งดี ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ สามารถที่จะสืบทอดต่อ ๆ กันไป ถือว่าเป็นหนทางหนึ่งในการนำพาบุคคลหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
แต่ถ้าหากว่าใครเอาไปใช้ผิด อย่างน้อยกำลังใจที่ใช้มโนมยิทธิ คือกำลังใจของบุคคลทรงฌาน ถ้าซักซ้อมบ่อย ๆ ต่อให้เป็นโลกียฌานก็ยังมีพรหมเป็นที่ไป หรือว่าถ้าตายแล้ว เผลอสติ ไม่ได้เข้าฌานเข้าสมาบัติ อย่างน้อยก็เป็นเทวดาชั้นล่าง ๆ ได้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-07-2025 เมื่อ 00:19
|