เมื่อสงสัยก็ต้องไต่ถาม จึงได้ความรู้มาว่า ในอดีตนั้นบรรดาท่านทั้งหลายที่มีเรื่องมีราว มีข่าวกันขึ้นมา จนกลายเป็นจำเลยสังคม ต้องสละสมณเพศ พูดง่าย ๆ ว่าตายจากผ้าเหลืองไป ในอดีตเคยสร้างกรรมกับบุคคลคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะได้รับโทษ โดยต้องทำหน้าที่แห่นักโทษไปประจาน ตระเวนน้ำตระเวนบก ๗ วัน กว่าที่จะลงโทษประหารกันได้ จึงเป็นเหตุให้เขาต้องย้อนกลับมาเอาคืน..!
ในลักษณะเดียวกับอดีตชาติของพระองคุลีมาลเถระที่ท่านเกิดเป็นควายป่า แล้วก็ไปเข้าฝูงเพื่อผสมพันธุ์กับควายบ้าน เมื่อถึงเวลาควายบ้านซึ่งเป็นจ่าฝูงออกมาต่อต้านก็ขวิดเขาตาย ทำให้ชาวบ้านรุมกันฆ่าควายป่าตัวนั้น แรงกรรมตรงนี้ก็เลยทำให้ชาวบ้านทั้งหมด ต้องมาโดนองคุลีมาลโจรในขณะนั้น ฆ่าแล้วตัดนิ้วไปร้อยเป็นพวงมาลัย..!
ทุกท่านจะเห็นว่าบุคคลที่หนีได้นานที่สุด ก็คืออดีตพระมหาทิวากร หนีไปได้ ๗ วัน เพราะว่าไปแห่เขาประจานตระเวนน้ำตระเวนบก ๗ วันเหมือนกัน แล้วค่อยโดนประหารชีวิต เขาทั้งหลายเหล่านั้น ก็ต้องตายจากผ้าเหลือง ลักษณะโดนประหารชีวิตทางสังคมเหมือนกัน..!
ที่กล่าวถึงตรงนี้เหมือนกับอวดอุตริมนุสสธรรม แต่อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายสามารถฝึกฝนเพื่อที่จะรับรู้ได้ แต่ขอให้รับรู้ในลักษณะที่ว่า "เกิดมากี่ชาติก็มีแต่ความทุกข์เช่นนี้..!"
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านสอนมโนมยิทธิ ท่านไม่ได้สอนให้เรารู้อดีต รู้ปัจจุบัน รู้อนาคต แล้วไปฟื้นความสัมพันธ์ในอดีตกับผู้อื่น แต่ท่านให้รู้เพื่อที่จะเข็ด เพื่อที่จะละ ว่าเกิดมากี่ชาติก็มีแต่ความทุกข์เช่นนี้ ถ้าเกิดอีกก็ทุกข์อีกไม่รู้จบ เราควรที่จะพอหรือยัง ? ท่านจึงได้สอนมโนมยิทธิให้กับลูกศิษย์ ทั้ง ๆ ที่ดูแล้วอันตรายมาก เหมือนกับอาวุธที่คมกล้า ถ้าพลาดเมื่อไรก็บาดทำร้ายตัวเอง แต่หลวงพ่อท่านก็มั่นใจว่า ลูกศิษย์ท่านต้องมีปัญญาพอเพียง ที่จะเลือกว่าอะไรผิด อะไรถูก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2025 เมื่อ 03:01
|