๗) ให้ทุกวัด สำนักสงฆ์ สำนักปฏิบัติธรรม ต้องมีคณะกรรมการบริหารที่มาจากฆราวาส ในการทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องเงิน การจัดซื้อจัดจ้างอย่างโปร่งใส รัดกุม ปลอดภัย สามารถตรวจสอบได้ อยากจะถามท่านทั้งหลายว่า ท่านจะหาความโปร่งใสตรวจสอบได้มาจากไหน ? ไอ้ตัวตรวจสอบได้ ตึกราคาหลายพันล้านเพิ่งจะพังไป..! แล้วมีใครไปตรวจสอบเขาทั้งหลายเหล่านั้นบ้าง ?
๘) การตรวจรับเงิน การจ่ายเงินทุกรายการ ต้องมีเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส เป็นผู้อนุมัติและร่วมเห็นชอบ โดยคณะกรรมการบริหารเงินของวัด โดยทุกสิ้นวันจะต้องนำเงินสดที่มาจากการบริจาค การทำบุญ เข้าบัญชีธนาคาร อยากจะถามท่านว่า ต่างจังหวัดมีธนาคารไหนที่เปิดรับเงินตอนสิ้นวันบ้าง ?
แล้วขณะเดียวกัน ในเมื่อ เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ไม่มีส่วนอะไรในการแตะต้องเงินนั้นเลย แล้วจะไปเซ็นอนุมัติอีท่าไหน ? ในเมื่อเราไม่รู้สักอย่างเดียวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทั้งหลายนั้นทำ แล้วจะไปเป็นตราประทับรับรองให้เขา น่าจะมีแต่คนปัญญาอ่อน ประเภทเดียวกับบุคคลที่จะออกกฎประเภทนี้เท่านั้นแหละ..! ที่จะไปเป็นตราประทับรับรองให้คนอื่นเขา
๙) ห้ามและให้วัด สำนักสงฆ์ สำนักปฏิบัติธรรม หยุดจัดการทำกิจกรรม หรือเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมใด ๆ รวมทั้งการจัดสร้างวัตถุมงคลทุกชนิดทุกประเภท ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่กำหนดไว้ในพระไตรปิฎก และพระธรรมบัญญัติ ยกเว้นการจัดสร้างพระพุทธรูป เพื่อรำลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น
อันนี้ก็ "ถอดกางเกงผายลม" น่าจะประมาณ ๒ ชั้น ๓ ชั้นเลย..! เพราะว่าถ้ากระผม/อาตมภาพสร้างพระพุทธรูปเล็ก ๆ ทำการปลุกเสกเป็นอย่างดี เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้มีที่พึ่งที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วท่านจะห้ามอีท่าไหน ? ในเมื่อเปิดช่องโหว่ชนิด ๑๘๐ หรือ ๓๖๐ องศาแบบนี้ ต้องบอกว่า "ยังไม่เนียน กลับไปเรียนมาใหม่"
ข้อที่เหลือทั้งหมด ถือว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อไปก็แล้วกัน กระผม/อาตมภาพขี้เกียจที่จะไปถกเถียงกับท่านทั้งหลายในเรื่องเหล่านี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:44
|