เมื่อออกมาทางด้านนอก ปรากฏว่าเจองานในกลุ่มไลน์ พรรคพวกเพื่อนฝูงส่งสิ่งที่ผู้หวังดีปรารถนาดี ต้องการที่จะช่วยเหลือให้พระพุทธศาสนาของเรา ดีขึ้น เจริญขึ้น ด้วยการจะออกข้อกฎหมายต่าง ๆ ออกมาจำนวนมาก กระผม/อาตมภาพอ่านแล้วก็ได้แต่ออกอาการ "น้ำตาจิไหล" อีกรอบหนึ่ง
ขออนุญาตอ่านให้ทุกท่านฟัง และขอวิพากษ์วิจารณ์เพียงเล็กน้อยดังต่อไปนี้
๑) ทุกวัด ทุกสำนักสงฆ์ ทุกสำนักปฏิบัติธรรม ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมศาสนา กระผม/อาตมภาพก็เข้าใจว่าก่อนหน้านี้พวกเราทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีเงินอุดหนุน มาบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่าง ๆ ในเมื่อคุณออกกฎหมายมาในลักษณะแบบนี้ แปลว่าอะไร ? หรือว่าค่อนข้างจะปัญญานิ่ม ไม่รู้ว่าเขามีการขึ้นทะเบียนเป็นปกติอยู่แล้ว..!?
๒) ห้ามวัด สำนักสงฆ์ สำนักปฏิบัติธรรม ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้ทุกแห่งถือกรรมสิทธิ์โดยกรมศาสนาเท่านั้น กระผม/อาตมภาพก็ไม่เข้าใจว่ากรมศาสนามายุ่งอะไรกับวัดและสำนักสงฆ์ด้วย ? เพราะว่าวัดและสำนักสงฆ์ทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถ้าหากว่ากรมศาสนาเข้ามายุ่งในลักษณะนี้ งบประมาณสนับสนุนทุกอย่าง กรมศาสนาต้องเป็นผู้จ่ายให้กับวัด นี่ไม่มีอะไรเลยที่จ่ายให้แม้แต่บาทเดียว แต่กลับให้ไปขึ้นกับกรมศาสนา แปลว่า เห็นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ "เป็นหัวหลักหัวตอ" ประมาณนั้น..!
๓) ห้ามวัด สำนักสงฆ์ สำนักปฏิบัติธรรมบุกรุกบริเวณป่าสงวน ทั้งประเภทป่าเสื่อมโทรม ถ้ำ ภูเขาและเกาะ อย่างเด็ดขาด อยากจะบอกว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายห้ามมา เป็นลักษณะของการ "ถอดกางเกงผายลม" ก็คือไม่มีความจำเป็นแม้แต่นิดเดียว..!
เอาแค่จังหวัดกาญจนบุรีของกระผม/อาตมภาพแล้วกัน ท่านทั้งหลายที่ทำในลักษณะนี้ โดน "อุ้ม" ออกมาดำเนินคดีกันไปหมดแล้ว แล้วคิดว่าท่านสั่งห้ามออกมาแล้วจะให้หน่วยงานไหนจัดการ ? ในเมื่อเจ้าของพื้นที่ อย่างเช่นกรมอุทยานฯ เขาก็ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว ลักษณะนี้โบราณเรียกว่า "ตีปลาหน้าไซ" ก็คือไปหารับประทานอยู่ต่อหน้าคนอื่นเขา ถ้าหากว่าไม่โดนเตะเสียก่อน ก็คาดว่าอนาคตน่าจะไม่สดใสนัก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : วันนี้ เมื่อ 08:14
|