วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องขอยืมคำพูดของหลวงปู่ยสกุลบุตรเถระที่ว่า "ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ" มาใช้งานชั่วคราว เนื่องจากต้องจัดการเรื่องของรถยนต์ประจำตัว ซึ่งชำรุดตามหลักอนิจจังไม่เที่ยง เหตุเพราะว่าใช้มา ๕๐๐,๐๐๐ กว่ากิโลเมตรแล้ว
การเข้าศูนย์ฯ นั้น ช่างก็ประมาณราคามาว่าน่าจะอยู่ในวงเงินไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท แต่พอถึงเวลารื้อออกมาปรึกษากับทางด้านศูนย์ฯ ใหญ่ในกรุงเทพฯ ปรากฏว่าจะต้องเปลี่ยนตัวนั้นเปลี่ยนตัวนี้ งบประมาณก็กระโดดขึ้นไปที่ ๘๐,๐๐๐ กว่าบาท กระผม/อาตมภาพก็ยังคิดว่ายังพอทน ถ้าทำแล้วดีขึ้น แต่ว่าเมื่อถามว่าประกันได้เท่าไร กลับได้รับคำตอบว่าประมาณ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ได้ยินแล้วก็ออกอาการ "น้ำตาจิไหล..!"
อีกไม่นานทางศูนย์ฯ ก็แจ้งมาว่า ถ้าสามารถยกเกียร์ใหม่ทั้งชุดได้เลยก็ยิ่งดี รายจ่ายสุทธิอยู่ที่ประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ บาท ทำเอาสามารถที่จะตัดสินใจเด็ดขาดเป็นสมุจเฉทปหานเลยว่า "กูไม่ทำกับมึงแล้ว..!" จัดการเอารถออกมาให้อู่ทางด้านนอกตีราคาให้
สรุปแล้วว่า ถ้าหากว่าทำแค่ส่วนที่เสียหาย น่าจะอยู่ที่ประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น จึงได้ตกลงทำกันที่นี่ แม้ว่าช่วงสองเดือนถัดจากนี้ไป กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งสะสมไมล์ถึง ๒๓ จังหวัด เพื่อตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ เกิดมีอะไรเสียหายขึ้นมากลางทางก็ถือว่าดวงเฮงสุด ๆ ไปก็แล้วกัน..!
พอดีทิดเดช (นายณภพ รัคสิกรณ์) ซึ่งเป็นไอ้ทิดที่เคยบวชวัดท่าขนุน นำรถยนต์มาให้ยืมใช้งานชั่วคราว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าไอ้ทิดของเราจะเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหรือเปล่า ? เปลี่ยนทีไรก็ทำเอาครูบาอาจารย์ปวดหัว เพราะว่าอ่านก็ยาก แปลแล้วความหมายอาจจะเสียอีกต่างหาก..! แต่ในเมื่อรักที่จะเปลี่ยนก็เชิญตามสบาย
หลังจากฉันเพลแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปร่วมประชุมโครงการพลังบวรในมิติศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปีงบประมาณพุทธศักราช ๒๕๖๘ ที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลวัดไชยชุมพลชนะสงคราม กรำงานอยู่จนเกือบ ๔ โมงเย็นถึงปิดประชุมได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:36
|