องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะมีพุทธบัญญัติสิ่งหนึ่งประการใดที่เป็นข้อห้ามก็ดี ข้อให้ปฏิบัติก็ตาม ทรงมีความรอบคอบและยืดหยุ่นอยู่เสมอ ทำให้บรรดาพระภิกษุสามเณรไม่ต้องประสบกับความยากลำบาก หรือว่าความเดือดร้อนต่าง ๆ จากการที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์โดยไม่มีการลดหย่อนผ่อนปรน องค์สมเด็จพระทศพลจึงให้ข้ออ้างใหญ่ทั้ง ๔ ข้อเอาไว้ โดยเฉพาะข้อที่ว่า "สิ่งที่ไม่สมควร ถ้าพิจารณาแล้วว่าไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร"
อย่างเช่นว่า สมัยนั้นไม่มียาเสพติด พระองค์ท่านไม่ได้ห้ามเอาไว้ แต่ยาเสพติดเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พิจารณาอย่างไรก็ไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร พระภิกษุสามเณรของเราจะไปใช้ข้ออ้างว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามไว้ ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะพระองค์ท่านทรงมีข้ออ้างในการตัดสินพระธรรมวินัยได้ชัดเจนแล้ว
อีกประการหนึ่ง ในช่วงเข้าพรรษาบรรดาญาติโยมทั้งหลายมักจะถือเป็นโอกาสสำคัญ ในการที่จะสร้างกองบุญการกุศลก็ดี ในการจะสร้างความดีใส่ตัวก็ตาม อย่างของวัดท่าขนุนเรา มีการแสดงพระธรรมเทศนาทุกวันพระ ทั้งภาคเช้าและภาคค่ำตลอดพรรษา ญาติโยมท่านใดตั้งใจจะสร้างกุศลใส่ตัว ต้องการจะฟังพระเทศน์ทั้งภาคเช้า ภาคค่ำ ตลอดพรรษา ก็สามารถที่จะมายังวัดท่าขนุนแห่งนี้ได้ทุกวันพระ แล้วขณะเดียวกัน บางท่านก็ตั้งใจว่า ตลอดพรรษานี้จะรักษาศีล ๘ ให้ได้ ตลอดพรรษานี้จะรักษาศีล ๕ ให้ได้ หรือว่าตลอดพรรษานี้จะงดการดื่มสุราเมรัย เป็นต้น
ถ้าท่านทั้งหลายใช้โอกาสสำคัญนี้ในการทำสิ่งที่ตนเองตั้งใจไว้ได้ ก็จะเป็นกุศลแก่ตัวท่าน ตลอดจนกระทั่งบุคคลรอบข้างเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าการสั่งสมบุญกุศลนั้น มีแต่อำนวยให้เกิดผลดีในชีวิตของเรา ทั้งโลกนี้และโลกหน้า สมกับพระบาลีที่อาตมภาพยกขึ้นในเบื้องต้นว่า "สุโข ปุญญัสสะ อุจจะโย" การสั่งสมบุญนั้นย่อมนำสุขมาให้ ด้วยประการฉะนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 09:36
|