ปรากฏว่ามีลูกศิษย์ได้ทำการบูชาไป แล้วก็มีคนขอบูชาต่อในราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท..! แต่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นตายก็ไม่ให้ เนื่องเพราะว่าเป็นสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจารให้ด้วยตนเอง และท่านก็ไม่ให้ทำรูปของท่านอีกด้วย เป็นอันว่าฝ่ายหนึ่งได้ไปบูชาสมกำลังใจ ส่วนอีกฝ่ายที่ตัดสินใจช้า แม้ให้ราคาเกินไป ๓ เท่าเศษ เขาก็ไม่ขายให้เสียแล้ว..!
เมื่อเสร็จจากการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ปกติแล้วกระผม/อาตมภาพต้องออกบิณฑบาต แต่ด้วยความที่วันนี้ต้องรีบเดินทางเข้าไปเพื่อร่วมพิธีสามีจิกรรมของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ จึงไม่ได้ออกบิณฑบาต ไปขออาหารเช้าที่โรงครัวจากแม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) หัวหน้าแม่ชีวัดท่าขนุน พร้อมกับจ่ายรางวัลที่ช่วยเหลืองานมาหลายวัน ให้กับบรรดาแม่ชีและญาติโยมที่ช่วยงานอยู่ที่วัดคนละ ๒,๐๐๐ บาท ถือว่าให้ในวาระพิเศษ คือวาระฉลองสัญญาบัตรพัดยศของกระผม/อาตมภาพเอง ไม่เช่นนั้นแล้ว โดยปกติก็จะให้รางวัลตามหน้างาน ก็คือวันละ ๑๐๐ บาท ถ้างาน ๓ วันก็รับไป ๓๐๐ บาท งาน ๕ วันก็รับไป ๕๐๐ บาท เหล่านี้เป็นต้น
ก่อนหน้านี้กระผม/อาตมภาพเคยเตือนทิดสมพงษ์ (อดีตพระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนรูปที่ ๕ ตามที่ชาวบ้านเขาเชื่อกันว่าอยู่ในลำดับนั้น ว่า "ใช้ใครอย่าใช้เปล่า ต้องมีรางวัลแก่พวกเขาด้วย เพื่อเป็นกำลังใจ" แต่ว่าท่านอาจารย์สมพงษ์ก็ไม่ได้สนใจตรงจุดนี้
เมื่อกระผม/อาตมภาพมาเป็นเจ้าอาวาส นอกจากพระภิกษุสงฆ์ซึ่งนาน ๆ จะนิมนต์ขึ้นอาสน์สงฆ์เพื่อรับปัจจัยไทยธรรมเสียทีหนึ่ง ที่เหลือก็แทบจะไม่ได้ให้รางวัลอะไรเลย แต่ในส่วนของน้องสามเณร แม่ชี และฆราวาส ซึ่งถือว่าไม่ได้ออกกิจนิมนต์แบบพระภิกษุสงฆ์ ก็จะให้รางวัลตามที่ได้บอกไปแล้ว
เพียงแต่ว่าเดือนนี้ถือว่าทุกท่าน "ทำพระคาถาเงินล้านขึ้น" ก็แล้วกัน เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสงฆ์ ก็เพิ่งจะรับสังฆทานสลากภัตไป แล้วมางานนี้ ยังรับรางวัลไปอีกรูปละ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งจะว่าไปแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็หมุนเวียนนำเอาปัจจัยกลับมา ทำบุญกับกระผม/อาตมภาพอยู่เสมอ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:08
|