ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า วันนี้, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,751
ได้ให้อนุโมทนา: 158,709
ได้รับอนุโมทนา 4,492,448 ครั้ง ใน 36,361 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะต้าน รัก โลภ โกรธ หลง ที่มาหนักกว่านั้นได้ ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่าอาบัติปาราชิกทั้ง ๔ ข้อ คือศีลพระที่เป็นข้อใหญ่ ล่วงละเมิดแล้วขาดความเป็นพระเลย อันดับแรกก็คือเสพเมถุน การมีผัวมีเมีย ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงมีอนุบัญญัติตามมาเกือบ ๒๐๐ ข้อ ไม่เว้นให้แม้แต่ซากศพ หรือว่าสัตว์เดรัจฉาน..! แปลว่าลงมือทำเมื่อไร ไม่มีข้ออ้างแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น

ข้อที่ ๒ ก็คือ ลักขโมยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ราคารวมกันได้ ๕ มาสก ซึ่งทางไทยเราตีราคาแค่บาทเดียว จะขาดความเป็นพระทันที..! แล้วท่านทั้งหลายลองคิดดูว่า ในปัจจุบันนี้ไปกันไกลแค่ไหน ถ้าหากว่าตั้งใจเอาเงินสงฆ์แม้แต่บาทเดียวมาเป็นเงินส่วนตัว เราก็ขาดความเป็นพระทันทีที่ทำกรรมนั้นสำเร็จแล้ว ไม่ต้องรอให้ใครมาจับสึก ถึงบวชอยู่ก็ไม่ใช่พระ นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์อยู่ ก็ไม่ใช่พระ แต่ว่าเรื่องนี้ในปัจจุบันไม่เห็นคนเขาจะเกรงกลัวกัน

ที่กระผม/อาตมภาพต้องทำบัญชีวัดด้วยตนเอง ไม่สามารถวางมือให้คนอื่นได้ ก็เพราะเกรงตรงนี้ว่า ท่านทั้งหลายพอเห็นตัวเลขมาก ๆ ระดับเงินหมื่น เงินแสน เดี๋ยวจะเกิดความโลภขึ้นมา พาให้ขาดความเป็นพระได้ง่ายมาก เรื่องที่เราห้ามทำทั้งหมด พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านบอกตั้งแต่วันแรกในการบวชแล้ว ก็คืออกรณียกิจ ๔ อย่าง สิ่งที่สงฆ์ห้ามทำอย่างเด็ดขาด

ข้อที่ ๓ ก็คือการฆ่าสัตว์ ไม่ใช่ฆ่ามนุษย์ ท่านใช้คำว่า สัญจิจจะ ปาโณ ชีวิตา นะ โวโรเปตัพโพ ห้ามมีเจตนาทำให้ชีวิตนั้นตกล่วงไป ก็แปลว่าจะเป็นสัตว์เล็กสัตว์น้อย ตลอดจนไปถึงมนุษย์ก็ตาม เป็นสิ่งที่นักบวชของเราห้ามฆ่าอย่างเด็ดขาด แต่ถ้าหากว่าฆ่าคนเมื่อไรก็ขาดความเป็นพระไปเลย..!

อีกข้อหนึ่งที่พลาดง่ายมากก็คือการอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน ไม่ได้ฌาน ไม่ได้สมาบัติ ไม่ได้วิโมกข์ ไม่ได้วิมุติ ไม่ได้มรรค ไม่ได้ผล แล้วไปบอกว่าตนเองได้ ต้องเอามาสอบสวนกันว่า เป็นการเข้าใจผิดอย่างแท้จริง อย่างเช่นว่าทรงฌาน ๔ ต่อเนื่องกันได้เป็นเดือน ๆ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกิด มีสติสมบูรณ์พร้อมทั้งหลับและตื่น แล้วไปคิดว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้า..!

แต่ว่าส่วนใหญ่ที่ทำก็เพื่อหวังลาภผลที่จะเกิดขึ้น กลายเป็นโทษ ๒ ชั้น ก็คืออวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน ขาดความเป็นพระไปแล้วยังไม่พอ ยังอยู่ในลักษณะของการฉ้อโกง ก็คือหลอกลวงให้ชาวบ้านมาทำบุญกับตนเอง ซึ่งในลักษณะนี้ถ้าเป็นภาษาบาลี ท่านใช้คำว่า อิณะปริโภคะ (อิณบริโภค) ก็คือการบริโภคใช้สอยแบบเป็นหนี้ชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 8 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กฤษฎากร (วันนี้), ฉันชื่อวรัญญา (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (วันนี้), เผือกน้อย (วันนี้), พุทธภูมิ (วันนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)