ดังนั้น..ทุกท่านจะเห็นว่า จุดมุ่งหมายในการเรียนปัจจุบันนี้ ของพระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่นั้น วิปริตผิดเพี้ยน ออกนอกแนวทางไปมาก อยู่ในลักษณะของอลคัททูปมปริยัติ ก็คือ เรียนแบบจับงูข้างหาง มีแต่จะโดนงูแว้งมากัด บาดเจ็บล้มตายเสียเปล่า ๆ..!
วัดอื่น สำนักอื่น เขาจะเรียนกันอย่างไรก็ตาม ครูบาอาจารย์ผู้สอนนักธรรมบาลีของวัดท่าขนุน ต้องไม่สอนให้นักเรียนของเราออกนอกลู่นอกทางตามเขาไป แต่ว่าต้องสอนไปตามแนวทางที่กระผม/อาตมภาพว่ากล่าวมานี้ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาด้านคันถธุระจริง ๆ แล้วนำเอาข้อธรรมคำสอนส่วนใหญ่นั้น ไปประพฤติปฏิบัติตามให้เป็นวิปัสสนาธุระให้ได้
โดยเฉพาะในส่วนของการเข้าถึงธรรม เราต้องไม่ทิ้งอารมณ์พระอริยเจ้า ก็คือต้องศึกษาด้วยความเคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ ด้วยความเคารพพระธรรมจริง ๆ ด้วยความเคารพพระสงฆ์จริง ๆ ต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทของตนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ต้องมีสติ ระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราต้องตาย ก่อนตาย เราจะต้องประกอบคุณงามความดีใส่ตัวใส่ตนให้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายก็คือพระนิพพาน
ถ้าท่านทั้งหลายเรียนในลักษณะอย่างนี้ได้ จึงจะถือว่าเป็นการเรียนคันถธุระของดี ของแท้ สมกับเจตนาปรารภขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของครูบาอาจารย์ที่ประพฤติปฏิบัติและศึกษากันสืบ ๆ มา ในเรื่องของวุฒิบัตร เกียรติบัตร ประกาศนียบัตร หรือปริญญาบัตรจากการเรียนนั้น ให้ถือว่าเป็นของแถมเท่านั้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:52
|