ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า เมื่อวานนี้, 22:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,746
ได้ให้อนุโมทนา: 158,708
ได้รับอนุโมทนา 4,492,304 ครั้ง ใน 36,356 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระองค์ท่านประกอบไปด้วยโลกียสมบัติที่สมบูรณ์บริบูรณ์ปานนั้น ยังสละทิ้งหมดเพื่อแลกกับพระธรรม แล้วเราเองที่ถือว่าเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เราได้กระทำสิ่งหนึ่งประการใดตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพ่อบ้างหรือไม่ ? หรือว่าเอาแต่สะสมสังฆทานจนท่วมห้อง..!

ถ้าหากว่าเรียน เราต้องเรียนในลักษณะของพุทธานุสติ ระลึกถึงคุณงามความดีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทำคุณต่อ ๓ โลกโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ เลย

บำเพ็ญพุทธัตถจริยา ก็คือแบบอย่างอันเป็นประโยชน์ตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารุ่นก่อน ๆ

บำเพ็ญญาตัตถจริยา บำเพ็ญพระองค์เป็นประโยชน์ต่อหมู่พระประยูรญาติ เสด็จไปโปรดทั้งพุทธบิดา พุทธมารดา พระนางพิมพา และพระราหุล นำเอาหมู่ญาติออกบวช บรรลุมรรคผลไปเป็นจำนวนมาก

บำเพ็ญโลกัตถจริยา ทรงประกาศพระพุทธศาสนา เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลกนี้ด้วยกระแสธรรม
ให้ดับร้อนผ่อนเย็น สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องคิดให้ได้ เราต้องเข้าให้ถึง จึงได้ชื่อว่าเป็นการเรียนนักธรรมอย่างแท้จริง

วิชาสุดท้ายก็คือพระวินัยบัญญัติ เป็นการที่ท่านทั้งหลายต้องศึกษาเรื่องของศีลพระให้เข้าใจละเอียด ให้สามารถที่จะระมัดระวังในลักษณะของสีลานุสติเต็มระดับ ก็คือแค่ขยับตัวต้องรู้แล้วว่าเราจะละเมิดศีลหรือเปล่า ? ถ้าท่านศึกษาพระวินัยบัญญัติในลักษณะนี้ ต่อให้อีก ๑๐๐ "สีกากอล์ฟ"ก็ทำอะไรท่านทั้งหลายไม่ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 10 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
กมลโกศลจิต​ (เมื่อวานนี้), ฉันชื่อวรัญญา (วันนี้), ชุณหพงศ์ (วันนี้), นาย ธีรัตน์ บุญศรี (เมื่อวานนี้), เผือกน้อย (วันนี้), พุทธภูมิ (เมื่อวานนี้), ไพเดช (วันนี้), มารวย๙ (วันนี้), ศรัณย์ (วันนี้), สุธรรม (วันนี้)