ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ในปัจจุบันนี้ เรื่องราวเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีฆราวาสจำนวนมากออกมาด่าพระกันอย่างสนุกสนาน เป็นการด่าที่ไม่ได้สำนึกเลย อย่างเรื่องหลวงพ่อวัดม่วง บางแค ท่านยังเป็นพระสงฆ์ ทรงผ้าไตรจีวรอยู่ ด่าโดยใช้คำว่า "พระ" นำหน้า..!
ก็จะเหมือนอย่างในพระไตรปิฎก ที่มีนักบวชต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ญาติโยมไปด่า ปรากฏว่าลงนรกไปด้วยกัน คนทำผิดลงนรกเป็นเรื่องปกติ แต่คนไม่ทำผิด ไปโกรธ เกลียด อาฆาต ด่าท่านเข้า กำลังใจตัวเองเสีย จึงกระโดดลงนรกไปด้วย เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก แต่คนสมัยนี้ไม่ค่อยจะเห็นนรกกัน ก็เลยไม่กลัว..! บางคนก็บอกว่า "นรกเป็นแค่ชื่อของน้ำพริก" ตายเมื่อไรแล้วเอ็งจะรู้ว่า ไอ้ที่ยิ่งกว่าน้ำพริกนั้นเป็นอย่างไร ?!!
สำหรับวันนี้ คณะของครูบาแก้ว สนฺติโก เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสว่าง เมืองปากงึม แขวงกำแพงนครเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ขออนุญาตมาถวายมุทิตาสักการะ ในโอกาสที่กระผม/อาตมภาพได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เนื่องเพราะว่าวันฉลองตรงกับกาลเข้าพรรษาไปแล้ว ท่านไม่สะดวกที่จะเดินทางมา
แต่ปรากฏว่าการมาถวายมุทิตาสักการะ ไม่ใช่เป้าหมายหลัก เป้าหมายหลักก็คือคณะของท่านสอบถามปัญหาการปฏิบัติธรรมที่ติดขัดอยู่ โดยเฉพาะครูบาแก้ว ท่านทำอสุภกรรมฐานมาก่อน เมื่อวานที่กระผม/อาตมภาพกล่าวถึง ท่านจึงนึกขึ้นมาได้ว่า ความจริงท่านทำไปมากแล้ว แต่เข้าใจผิด ก็คือท่านพิจารณากระดูก จนกระทั่งใสสว่างเหมือนกับหลอดไฟ ท่านคิดว่าอาจจะไปผิดทาง ก็เลยทิ้งไปเฉย ๆ..!
ความจริงการปฏิบัติในอสุภกรรมฐานทุกอย่าง ถ้าเรารู้จักประยุกต์ร่วมกับอานาปานสติ ถ้าหากว่าถึงฌาน ๔ เต็มที่ ซากศพทุกประเภทจะเป็นแก้วประกายพรึกหมด จะขอให้มาก็ได้ ให้ไปก็ได้ ให้ใหญ่ก็ได้ ให้เล็กก็ได้ ต้องการให้อยู่ในสภาพไหนก็ได้ แบบที่หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอกท่านทำ กระผม/อาตมภาพจึงถวายคำแนะนำว่า "ให้ครูบาท่านไปปฏิบัติใหม่ คนที่เคยทำแล้ว รู้ช่องทาง ไม่น่าจะยาก เพราะต่อจากนั้นอีกนิดเดียวก็ถึงที่สุดแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:50
|