วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ความจริงกระผม/อาตมภาพน่าจะนอนสลบไสลไป จนกว่าจะได้ยินเสียงระฆังทำวัตรเช้าเลย..! แต่พอดีว่าประมาณ ๐๓.๑๕ น. ฝนก็กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จึงได้ตื่นเพราะเสียงฝน แล้วเดินจากที่พักไปยังสำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ล้างหน้าล้างตา แต่งองค์ทรงเครื่อง แล้วออกไปเจริญพระกรรมฐานและทำวัตรเช้า ร่วมกับพระภิกษุสามเณรทุกรูป
เพียงแต่ว่าฝนที่ตกอยู่ทำให้ไม่ได้ยินเสียงระฆังเรียกบิณฑบาต จึงออกไปช้ากว่าพระภิกษุสามเณรถึง ๑๓ นาทีด้วยกัน แต่ด้วยความที่เป็นคนเดินเร็วมาก โดยปกติบุคคลทั่วไปจะใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงละ ๔ กิโลเมตร นี่หมายถึงคนที่เดินเก่งเป็นมาตรฐาน แต่กระผม/อาตมภาพนั้นเคยเดินป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ๙๓ กิโลเมตร ๑๒ ชั่วโมงก็ทะลุแล้ว เฉลี่ยได้ประมาณ ๘ กิโลเมตร/ชั่วโมง นั่นเป็นภูมิประเทศขึ้นเขาลงห้วยอีกด้วย..!
ส่วนในทางราบนั้น ไม่ทราบว่าถ้าตนเองเร่งฝีเท้าแล้วจะได้กี่กิโลเมตร/ชั่วโมง ? แต่ว่าเดินไปทันพระภิกษุสามเณรที่หัวสะพานคอนกรีตทางฝั่งตลาด แล้วก็เลยนำทุกท่านออกบิณฑบาต โดยที่รอดจากฝนมาได้อย่างหวุดหวิด..!
เมื่อกลับมาฉันเช้าแล้ว ค่อยหอบเอาสัญญาบัตรพัดยศขึ้นรถ ตรงไปยังวัดเขื่อนวชิราลงกรณ โดยปกติแล้วถ้ามีการรับพระราชทานเลื่อน หรือพระราชทานตั้งพระครูสัญญาบัตรของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็จะมีการจัดงานฉลองให้ที่วัดปรังกาสี ของหลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ แต่ด้วยเหตุที่ว่าระยะนี้ยังอยู่ในระหว่างจัดงานสวดพระอภิธรรม ถวายพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ (พูลศักดิ์ ปญฺญาวุโธ) อดีตรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ อยู่ที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณทุกคืน สถานที่ทุกอย่างก็จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว จึงได้ย้ายการฉลองจากวัดปรังกาสี ไปที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณแทน
เมื่อพวกเราพร้อมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย นำพระครูสัญญาบัตรทั้งเก่าและใหม่ ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรและญาติโยมที่มาร่วมงาน ทำการเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากที่กราบพระแล้ว ถึงได้ตั้งขบวนแห่รอบอุโบสถวัดเขื่อนวชิราลงกรณ โดยมีน้อง ๆ จากวงโยธวาทิต โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา เดินตามขบวน บรรเลงเพลงให้อย่างสนุกสนาน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:53
|