เมื่อได้เวลา เจ้าหน้าที่ก็นิมนต์ผู้ได้รับพระราชทานตั้งทั้งหมด เข้ารับพระราชทานผ้าไตรเสียก่อน ผู้ที่ได้รับพระราชทานเลื่อน ไม่ได้รับผ้าไตรพระราชทานแบบนั้น ครั้นเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสาธิตว่า ถึงเวลารับพระราชทานสัญญาบัตร รับพระราชทานพัดยศนั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง ? มือจะต้องจับบริเวณไหน ? เหล่านี้เป็นต้น
จนกระทั่งประมาณ ๑๓.๓๐ น. พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ. ๘) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส ผู้แทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ก็มาถึง
ครั้นนำไหว้พระและเข้าประจำที่ รับการถวายสักการะจากทั้งพระเถระเจ้าคณะปกครอง ตลอดจนกระทั่งข้าราชการระดับสูงแล้ว ก็เริ่มพิธีพระราชทานตั้งสัญญาบัตรพัดยศเสียก่อน จนกระทั่งครบ ๓๐๐ กว่ารายแล้วก็มีการหยุดพัก เพื่อให้บรรดาพระเถระผู้ทำการเจริญชัยมงคลคาถาได้หยุดพักครู่ใหญ่ แล้วก็เข้าสู่พิธีพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ต่อไป
กระผม/อาตมภาพรับแล้วลงมาทางด้านล่าง คุยกันอยู่พักหนึ่งก็ต้องขอตัวหนี เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อแป๊ะช่วยเจิมสัญญาบัตรด้วยน้ำหมากเสียจนลายพร้อย..! ออกมาถึงด้านนอกแล้วรู้สึกว่าตัดสินใจได้ถูก เพราะว่าทั้งคนทั้งรถแน่นขนัดไปหมด รอจนเสร็จพิธีมีหวังไม่ได้ออกเดินทางง่าย ๆ น่าจะติดอยู่ข้างในกัน อย่างน้อยก็คงจะไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง..!
สำหรับวันนี้ทางด้านคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ นัดหมายให้นำสัญญาบัตรพัดยศไปไว้ที่วัดเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อร่วมกันฉลองในวันพรุ่งนี้ โดยที่หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้มาทาบทามตั้งแต่ก่อนจะเข้าหอประชุมใหญ่ว่า "รบกวนหลวงพ่อเล็กจัดปัจจัยไทยธรรมให้ด้วยนะครับ" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ได้ครับ..พระเจริญชัยมงคลคาถา ๑๐ รูปใช่หรือไม่ ?" ท่านบอกว่า ""รวมเลขาฯ แล้ว ๑๓ รูปครับ พร้อมทั้งรองเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะอำเภอก็เป็น ๑๕ รูป..!"
สรุปว่างานนี้ไม่ใช่คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิฉลองให้ แต่เป็นพระครูวิลาศกาญจนธรรม วัดท่าขนุน เป็นเจ้าภาพฉลองให้..! ฟังดูแล้วก็เป็นอะไรที่ขำดีอยู่เหมือนกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 03:33
|