โดยเฉพาะพัฒนาการทางตัวอักษร ซึ่งพวกเราขนาดใช้กูเกิ้ลทรานสเลทก็แปลไม่ออก เพราะเป็นภาษาโบราณ "นายไก่" (นายฐนชล ทิมแสง) หัวหน้าทัวร์จากเติมเต็มทราเวลจึงอ่านให้พวกเราฟังว่า "แม่ทำกับข้าวไว้เรียบร้อยแล้ว แช่อยู่ในตู้เย็น ถ้าจะกิน อย่าลืมเอาเข้าไมโครเวฟก่อนนะลูก" ทำเอาหัวเราะกันสนั่นหวั่นไหว จนคนจีนหันมามองหน้ากันหมด..!
กระผม/อาตมภาพถ่ายรูปมาเกือบ ๒๐๐ รูป แต่ว่าไม่สามารถที่จะนำลงให้ทุกคนดูได้ทั้งหมด แล้วก็ชอบอกชอบใจตรงที่ว่าสมัยนั้น บรรดาเครื่องทองเครื่องหยกต่าง ๆ ก็จัดว่ามีฝีมือมาก ๆ แล้ว ถ้าถามว่ามีฝีมือระดับไหน ? ก็วัวทองคำตัวที่ถ่ายออกมานั้น เล็กประมาณนิ้วก้อยของกระผม/อาตมภาพเท่านั้นเอง..! ไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารเหมือนในรูปที่ใช้ซูมขยายมา
แล้วในส่วนอื่น ๆ ที่ชอบใจก็คือ เขาพาเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษา และคนจีนก็แห่กันเข้ามามากต่อมากด้วยกัน หลายคนก็มี "แก็ดเจ็ต" ที่มีข้อมูลอยู่ เอารูปใน "แก็ดเจ็ต" มาเทียบดูทีละชิ้น..ทีละชิ้น เพื่อที่จะไม่พลาดสิ่งสำคัญไป แสดงว่าคนจีนยุคนี้ก็เห็นความสำคัญของรากเหง้าตนเองเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะรัฐบาลพยายามชวนเชื่อว่า ๕๖ ชนเผ่าในเมืองจีนนั้นเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็คือไม่มีการแบ่งแยกชนเผ่า ทุกคนก็คือชาวจีนเช่นเดียวกัน แต่ว่าด้วยความแตกต่างทางเชื้อชาติ ภาษา อาหารการกิน การแต่งกาย ขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ จึงทำให้ยากที่จะเข้าถึงได้ โดยเฉพาะชาวอุยกูร์นั้น มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมมีมากเป็นพิเศษ ทางคนจีนพยายามที่จะสลายความเชื่อมั่นของเขานั้นยากเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้พวกเรารู้สึกชื่นชมมากว่า คนจีนยุคใหม่พยายามทำความเข้าใจ เพื่อที่จะเข้าถึงและพัฒนาไปด้วยกันได้ ซึ่งส่วนนี้ประเทศของเรายังไม่มี
กระผม/อาตมภาพบันทึกเสียงมาถึงตรงนี้ ดูท่าว่าเอกสารใกล้จะเสร็จแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 19:21
|