พวกเราต้องขึ้นเครื่องที่ประตู A220 แต่ว่าลงบันไดใช้ชั้นล่าง อยู่ตรงประตู A238 จึงต้องเดินกันขาลาก ทำให้แวะตามร้านค้าเป็นระยะเพื่อดูสินค้าต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นบรรดาหยกหินสีต่าง ๆ แกะสลักสวยงาม ตลอดจนกระทั่งขวดยานัตถุ์ ซึ่งขวดยานัตถุ์นั้น ราคาถูกที่สุดอยู่ที่ ๓๘๐ หยวนต่อใบ ส่วนหยกเหอเถียนที่กระผม/อาตมภาพชอบใจ เป็นรูปลูกมังกรทั้ง ๙ ซึ่งเจ้าตัวนี้มีเขาเดียว จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร ราคาอยู่ที่ ๗๒,๘๐๐ หยวน ทำให้ต้องรีบเผ่นออกจากร้านโดยเร็ว เนื่องจากว่ารับกิจนิมนต์เป็น ๑๐ ปี ไม่รู้ว่าจะได้เงินเท่านี้หรือเปล่า ?
พวกเราไปนั่งรอขึ้นเครื่อง จนเวลา ๑๕.๒๐ น. ก็ทำการขึ้นเครื่องกันโดยไม่ต้องตรวจตราอะไรเลย นอกจากเดินผ่านให้เครื่องสแกใบหน้าเท่านั้น ข้อมูลทั้งหมดของเราอยู่ในนั้นแล้ว กระผม/อาตมภาพนั่งกับ "คุณณรงค์" (นายฑนดล ภูมิธเนศ) และ "น้องเล็ก" (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ที่ท้ายเครื่อง ก็คือแถวที่ ๘๑ อีกสองแถวก็สุดท้ายเครื่องแล้ว..!
ด้วยความที่ว่าเครื่องบินต้องใช้เวลาบินถึง ๔ ชั่วโมง ๑๐ นาที ไม่มีอะไรจะทำ เพราะว่าหนังสือก็ไม่มีให้อ่าน กระผม/อาตมภาพจึงภาวนา ส่งใจคุยกับ "ท่านอูฐ" บ้าง ดูฟ้าดูดิน ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ บ้าง จนกระทั่งข้ามมาเขตมณฑลชิงไห่ "ท่านอูฐ" กับบริวารก็โบกมืออำลากันตรงนี้ ปล่อยให้กระผม/อาตมภาพนั่งกันยาวต่อไป
ระหว่างนั้นก็มีการแจกข้าวกล่องอาหารมื้อเย็น ดูหน้าตาแล้วก็น่ากินอยู่ทีเดียว เนื่องเพราะว่าเป็น "หนิวโร่วเหมี่ยน" ซึ่งก็คือ "หมี่ผัดเนื้อวัว" แต่ขอโทษเถอะ..ไม่สามารถที่จะกินได้ ถ่ายรูปแล้วก็ต้องส่งคืนเขาไป นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ เข้าห้องน้ำไป ๒ รอบ ก็มาถึงสนามบินไป๋หยุน เมืองกวางโจว มณฑลกวางตง ปรากฏว่ากระผม/อาตมภาพมาเสียเวลานานมาก ตรงจุดที่ต้องไปทำการประทับตราตั๋ว เพื่อเดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-06-2025 เมื่อ 03:33
|