สถานที่แห่งที่สองที่เขาจอดให้ก็คือหอสวดมนต์ของพระถังซัมจั๋ง อาแปะแกออกนอกทางคล้าย ๆ กับ กระผม/อาตมภาพ ก็เลยโดนเจ้าหน้าที่ตะโกนไล่ให้ขึ้นไปบนทางเดินไม้ ห้ามลงข้างล่างโดยเด็ดขาด หายห้าวไปทั้งเขาและเรา..!
สถานที่สามก็คือวัดใหญ่ประจำเมืองเกาชางโบราณ ซึ่งตอนนี้ก็ปรักหักพังเหลือ แต่ชิ้นส่วนที่พอเห็นว่า ในอดีตนั้นเคยยิ่งใหญ่อลังการเพียงใด ? พวกเราถ่ายรูปหมู่กันเสร็จแล้ว ก็ต้องรีบเผ่นขึ้นรถอย่างเร็วไว ก่อนที่จะละลายกลายเป็นน้ำ..!
เมื่อออกมาถึงทางด้านนอก ทุกคนก็วิ่งเข้าหาร้านค้า ก่อนที่จะวิ่งเข้าไป ช่วงกระผม/อาตมภาพไปถ่ายรูปพระถังซัมจั๋งนั้น มีรายการ "กระจายรายได้" ให้กับคนทางนี้เป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงได้นำแตงหวานมาหั่นแจกให้กับลูกค้าวีไอพีกลุ่มนี้ "ท่านอูฐ" สะกิดให้กระผม/อาตมภาพฉัน เล่นเอาต้องมองหน้า เพราะกระผม/อาตมภาพมีมาลาเรียเรื้อรังติดตัว ถ้าโดนของเย็นแบบฟักแฟงแตงน้ำเต้าเข้าไป รับประกันได้ว่าไข้ขึ้นอย่างแน่นอน..!
แต่ "ท่านอูฐ" แกรับรองแข็งขันว่า "ควรต้องฉันครับ" กระผม/อาตมภาพจึงหยิบมาชิ้นหนึ่ง เมื่อฉันจนเหลือแต่เปลือกแล้ว พ่อค้าแกยังอุตส่าห์เอาถุงมารับเศษที่เหลืออีกด้วย ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อออกมาจากเมืองโบราณเกาชาง กลับขึ้นรถของพวกเรากันเอง ตรงไปยังโบราณสถานสำคัญแห่งที่สองของเมืองถูลู่ฟาน ก็คือ "เชียนฝอต้ง" หรือว่า "ถ้ำพระพันองค์" เป็นถ้ำที่ทางด้านพุทธศาสนิกชนได้สร้างเอาไว้ แต่ว่าโดนทำลายไปเสียเกือบหมด กระนั้นก็ยังมีการห้ามถ่ายรูปอยู่ดี กระผม/อาตมภาพนั้นค่อนข้างจะเป็นคนเชื่อฟัง เขาห้ามไม่ให้ถ่ายรูปก็ถ่ายแต่พองามเท่านั้น..!
แล้วก็มาเจอวณิพกรุ่นคนปู่กำลังเล่นซอหัวม้า ถามดูปรากฏว่าอายุ ๘๓ ปีแล้ว มาเล่นดนตรีเปิดหมวก กระผม/อาตมภาพจึงหย่อนลงไปให้ ๕๐ หยวน ทำเอาคุณปู่ดีอกดีใจ ส่ง "หมวกซงโก๊ะ" ของชาวอิสลามมาให้ใส่ ทำเอาญาติโยมร้องเสียงหลงว่า "ไม่สามารถจะใส่หมวกได้ เพราะว่าเป็นต้าซือ..!" แกก็เลยส่งเครื่องดนตรีประเภทตี คล้ายรำมะนาครึ่งใบมีห่วงเขย่าอยู่ด้วยมาให้แทน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-06-2025 เมื่อ 02:33
|