เมื่อมากันครบถ้วนแล้ว พวกเราจึงนั่งรถแบตเตอรี่ วิ่งออกไปทางด้านนอก ลงแล้วผ่านเครื่องตรวจนับจำนวนคน ย้อนไปยังลานจอดรถ ขึ้นรถของเราแล้ววิ่งไปยังร้านอาหารกลางวัน ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น อาหารกลางวันวันนี้อุดมสมบูรณ์มาก แล้วก็อร่อยมากเกือบทุกอย่าง พวกเราก็เลยกวาดกันเสียจนเรียบวุธ แม้กระทั่งมาเป็นอย่างท้าย ๆ ก็ยังอร่อยอยู่ แสดงว่าฝีมือของเขาดีจริง..!
เมื่อเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารและเข้าห้องน้ำกันแล้ว พวกเราก็กลับมาขึ้นรถ วิ่งตรงไปยังเมืองหลิ่วชวน เพื่อที่จะขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปยังเมืองอูลู่มู่ฉี มณฑลซินเจียง ซึ่งถ้าหากว่านั่งรถบัสไปก็เป็นวัน แต่ถ้านั่งรถไฟความเร็วสูง ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น มีการอำลาอาลัยและแซวกันกระจายบนรถ..!
กระผม/อาตมภาพมอบรางวัลให้กับพลขับ น้องเหมย และคังคัง คนละ ๓๐๐ หยวน ส่วนคุณโบตั๋นยังไปกับพวกเราจึงยังไม่ให้ ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงก็มาถึงเมืองหลิ่วชวน พวกเราต้องผ่านการตรวจที่เข้มงวดพอ ๆ กับสนามบิน เข้าไปภายในสถานีรถไฟความเร็วสูง อาเหมยกับคังคังก็เข้ามาด้วย เพราะว่าจะขึ้นรถไฟคนละเที่ยวกันเพื่อกลับบ้านของตัวเอง
พวกเราต้องรอจนกว่าจะถึงเวลา ๑๗.๑๒ น. จึงสามารถที่จะขึ้นรถไฟได้ กระผม/อาตมภาพจึงอาศัยเวลาช่วงนี้ ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ท่ามกลางเสียงประกาศเป็นระยะ ๆ ของโฆษกสถานีรถไฟ ถ้ามีเสียงรบกวนลอดเข้ามาบ้างก็ต้องขออภัยทุกคนมา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2025 เมื่อ 02:45
|