รถใช้เวลาวิ่งแค่ ๕ นาทีเท่านั้น ก็ไปถึงลานจอดรถหน้าทะเลทรายหมิงซาซาน มิน่าล่ะ..ถึงได้ใจเย็นกันนัก ที่แท้อยู่ใกล้แค่นี้เอง พวกเราตามอาเหมย คังคัง ตลอดจนคุณโบตั๋น ไปรอเวลาซื้อตั๋วเข้าสถานที่ และฉวยโอกาสนั้นถ่ายรูปหมู่เอาไว้ก่อน ระหว่างนั้นก็เห็นบรรดาสาวจีน ทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย แต่งตัวในชุดเฟยเทียนหนี่บ้าง ชุดนางสาวจากอาหรับราตรีบ้าง ชนิดจัดหนักจัดเต็มไปตาม ๆ กัน จนให้สงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า "นี่เขาจะไปขี่อูฐกันจริง ๆ หรือ ?"
เมื่อได้ตั๋วราคา ๑๑๐ หยวนของแต่ละคนมาแล้ว ก็ทำการสแกนตั๋วและใบหน้า ผ่านเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ต้องไปซื้อตั๋วเพื่อขี่อูฐ คนละ ๑๓๐ หยวน ซึ่งอูฐทั้งหลายที่เห็นอยู่หลายพันตัวนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นของชาวบ้านแถวนี้ นำมาร่วมกับทางราชการ ส่วนใหญ่ก็มีครอบครัวละ ๕ ตัวบ้าง ๖ ตัวบ้าง
คุณโบตั๋นจึงบอกว่า อย่าหวังว่าเราจะได้ไปขบวนเดียวกัน แต่ว่าตั๋วของใครได้ไปขบวนไหนก็ไปขบวนนั้น แล้วไปเจอกันบริเวณที่สุดท้าย ซึ่งเขาจะจัดเอาไว้สำหรับพวกเรารวมพล แล้วจะได้ไปดูทะเลสาบจันทร์เสี้ยวกัน กระผม/อาตมภาพ น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พี่มุกดา (นางสาวมุกดา เพชรชื่นสกุล) น้องไก่ (นางสาวโสภา ตั้งอธิคม) และป้าสุ (นางศุภากาญจน์ หว่อง) ได้ไปขบวนเดียวกัน
เป็นที่อัศจรรย์ว่าทางเจ้าของอูฐ เป็นตายก็ไม่ยอมให้คนอื่นขี่อูฐขาวที่มีอยู่ตัวเดียวในขบวน แต่ว่ามาดึงกระผม/อาตมภาพไปขี่อูฐขาวตัวนั้น แล้วให้คนอื่น ๆ ขี่อูฐตัวอื่นที่อยู่ด้านหน้าแทน กระผม/อาตมภาพขึ้นหลังเรียบร้อยแล้วก็ส่งกำลังใจถามว่า "เป็นอย่างไรบ้างเพื่อนเก่า ยังสบายดีอยู่หรือไม่ ?" อีกฝ่ายหนึ่งทำเสียงดัง "พรืด" เป็นเชิงตอบรับว่า "สบายดี"
เจ้าของอูฐเมื่อให้พวกเราขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็เดินจูงอูฐตามขบวนอื่น ๆ เป็นทิวแถวไป กระผม/อาตมภาพอาศัยระลึกถึงความเคยชินสมัยก่อน ๆ จึงสามารถปล่อยมือจากที่จับ แล้วถ่ายรูปด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ เสียดายที่ว่าคนอื่นทำแบบนี้ไม่ได้..!
เมื่อเดินไปเป็นระยะทางค่อนข้างจะไกล ตากแดดจนแสบร้อนไปหมด พวกเราทางด้านหลังบางขบวนก็แซงหน้าไปแล้ว จึงวกเดินกลับมาถึงบริเวณที่พัก กระผม/อาตมภาพสลัดเท้าออกจากโกลนได้ ก็ทิ้งตัวลงไปก่อนที่เจ้าของบังคับอูฐให้นั่ง ทำเอาอีกฝ่ายตกอกตกใจว่า "ทำไมต้าซือแสดงอภินิหารแบบนี้ ?" เนื่องเพราะว่ามัวแต่บังคับอูฐตัวแรกให้นั่งอยู่ แต่กระผม/อาตมภาพไม่ได้ว่าอะไร ส่งกำลังใจขอบคุณเพื่อนเก่า แล้วก็เดินไปหลบในร่ม รอเวลาคนอื่นมาสมทบ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2025 เมื่อ 02:39
|