กระผม/อาตมภาพเดินดูสินค้าต่าง ๆ ไปแล้วเห็นว่า ถนนคนเดินนี้ไม่ใช่ซอยร้อยร้าน หากแต่เป็นซอยหลายร้อยร้าน..! มีการตั้งร้านค้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ขนาดเดียวกันทุกร้าน ทรงเดียวกันทุกร้าน เพียงแต่ว่าใครจะวางจำหน่ายสินค้าอะไรบ้างเท่านั้นเอง ใครที่อยู่ในตัวตึกก็ถือว่าโชคดีไป เพราะว่าไม่ต้องเสียเวลาไปเช่าที่เช่าทางแบบบรรดาร้านค้าด้านนอก
เมื่อเดินไปจนกระทั่งถึงบริเวณร้านอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นเขตอโคจรสำหรับพระ กระผม/อาตมภาพก็ย้อนกลับมา ตรงไปยังบริเวณวงเวียนเมืองตุนหวง ซึ่งมีรูป "เฟยเทียนหนี่" ก็คือ "อัปสรสวรรค์" ที่แสดงดนตรีอยู่ในถ้ำตุนหวงนั่นเอง ถ่ายรูปเฟยเทียนหนี่เสร็จแล้ว ก็กลับมานั่งส่งงาน รอจนกระทั่งทุกคนมากันครบครัน ถึงได้ขึ้นรถบัสตรงไปยังโรงแรมเทียนเหอ ใช้เวลาวิ่งประมาณ ๑๐ นาทีเท่านั้น
ทางมัคคุเทศก์นัดแนะกันว่า พรุ่งนี้จะต้องปลุกกี่โมง ? รับประทานอาหารกี่โมง ? และเดินทางกี่โมง ? โดยเฉพาะสำคัญที่สุดก็คือ คืนนี้ ๓ ทุ่มครึ่งเป็นอย่างน้อย ทุกคนจะต้องเอากระเป๋าใบใหญ่ลงมาที่ล็อบบี้ เพื่อที่จะติดรถวิ่งไปยังมณฑลซินเจียงเสียก่อน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเราจะนั่งรถไฟความเร็วสูงไปแทน เมื่อฝากกระเป๋าไปก่อน ก็แปลว่าต้องมีกระเป๋าใบเล็กติดตัวไว้ หลังจากแจกกุญแจแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ตรงเข้าห้องพัก ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนก่อน เสร็จเรียบร้อยแล้วถึงจะสรงน้ำ และทำกิจกรรมอื่น ๆ กันต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2025 เมื่อ 02:53
|