เมื่อสแกนจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้วก็กลับขึ้นรถ วิ่งไปไม่กี่นาทีก็ถึงบริเวณปากทางเข้าถ้ำโม่เกาคู พวกเราต้องลงกันแค่ตรงนี้ ทุกคนที่เข้าห้องน้ำในร้านอาหารมาแล้ว จึงไม่ต้องไปตบตีแย่งชิงกับคนเป็นพัน ๆ บริเวณห้องน้ำ..! พวกเราเดินตรงไปยังสถานที่ขายตั๋วเลย ก็เห็นประโยชน์จากอาเหมยและคังคังในตอนนี้เอง เพราะว่าไกด์ท้องถิ่นเท่านั้น จึงมีสิทธิ์ที่จะซื้อตั๋วให้กับกรุ๊ปทัวร์ แม้แต่ไกด์กิตติมศักดิ์อย่างคุณโบตั๋นก็ไม่สามารถที่จะซื้อได้ เพราะว่าอยู่คนละเมืองกัน บัตรไกด์ไม่ใช่บัตรสำหรับทางด้านนี้ แต่ที่มานั้น มาในฐานะล่ามแปลภาษาจีนเป็นไทยให้กับคณะของเรา
คุณโบตั๋นเป็นชาวไทยเชื้อสายจ้วง จะเรียกว่าไทยก็ไม่ได้ ต้องบอกว่าเป็นชนชาติจ้วงของเมืองกวางสี ด้วยความที่ว่าคนจ้วงนั้นพูดภาษาตระกูลไท คนโบตั๋นก็เลยใช้เวลาในการฝึกภาษาไทยแค่ปีเดียวก็รู้เรื่อง ขณะที่ไกด์ทั่ว ๆ ไปถ้าจะฝึกภาษาไทยก็ต้องผ่านหลักสูตรถึง ๓ ปี..!
เมื่อพวกเราได้บัตรมาแล้วก็ยังต้องเข้าแถวรอ เพราะว่าบัตรระบุเอาไว้ว่าจะเข้าได้ตอนไหน พวกเราก็เลยต้องไปเดินสำรวจร้านสรรพสินค้า ทำการกระจายรายได้กันตามระเบียบ เมื่อเห็นได้เวลาก็มาเข้าแถวรอ จนเขาอนุญาตให้เขาไปแล้ว ก็ยังต้องยืนรออีกถึงครึ่งชั่วโมงเศษ เพื่อที่จะดูวิดีโอแนะนำเมืองตุนหวง และวิดีโอแนะนำถ้ำพระพุทธศาสนาโม่เกาคู ซึ่งแต่ละห้องแต่ละจอนั้นใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที
เมืองตุนหวงนั้น เริ่มจาก "จางเชียน" เป็นราชทูตของแผ่นดินฮั่น ที่ไปเกลี้ยกล่อมชนกลุ่มน้อยให้ไปรบกับ "ซวงหนู" หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "พวกป่าเถื่อนนอกด่าน" แล้วมาค้นพบเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ จนกระทั่งท้ายที่สุด ก็สามารถที่จะเอามาเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินจีนได้
ส่วนห้องต่อไปนั้นเป็นจอแบบ ๓๖๐ องศา หมุนไปหมุนมา ถ้าหากว่าคนไม่เคยชินอาจจะเวียนหัวได้ เป็นสิ่งที่ดีเลิศมาก เพราะว่าเขาถ่ายภาพทีเด็ดภายในถ้ำโม่เกาคูออกมาเกือบทุกถ้ำ ให้พวกเราสามารถดูได้อย่างใกล้ชิด เนื่องเพราะว่าเวลาไปดูของจริงนั้นเขาไม่เปิดไฟ จะไม่มีโอกาสได้เห็นชัดเจนแบบในวิดีโอนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2025 เมื่อ 02:42
|