ทางด้านบนยังมีภูเขาที่มีรูปลักษณะเหมือนเต่าทะเล มีช่วงภูเขาหินที่ลาย ๆ เหมือนอย่างกับหลังเต่ากระ และตรงยอดเขาที่ยื่นขึ้นมาเหมือนหัวเต่าอีกด้วย แต่บริเวณที่บอกว่าเป็น "มังกรพ่นไฟ" นั้น กระผม/อาตมภาพเห็นแต่พื้นสูง ๆ ต่ำ ๆ สีค่อนข้างแดงเท่านั้น และมีหมู่อูฐอยู่ไกลลิบ ๆ เมื่อตั้งใจจะเดินไปถ่ายรูปอูฐ เจ้าหน้าที่บอกว่า"ไกลมาก เวลาที่เหลือคุณเดินไม่ถึงหรอก" พวกเราจึงต้องเดินย้อนกลับมา แทนที่จะรออยู่บริเวณจุดนัดพบ ทุกคนก็ไปกระจายรายได้ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นการใหญ่..!
จนกระทั่งพร้อมแล้ว คุณโบตั๋น อาเหมย และคังคัง ได้พาพวกเรานั่งรถยนต์ขาออก ทำให้ได้เห็นการท่องเที่ยวแบบคนรวย ก็คือเขามีการขี่เฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปชมบริเวณจุดที่ ๒ ด้วย พวกเรามีเวลาถ่ายรูปกันตรงจุดที่ ๒ แค่ ๑๐ นาที ซึ่งต้องรบราฆ่าฟันกับชาวจีนไป ๘ นาทีเป็นอย่างน้อย..!
จากนั้นก็เดินตรงไปยังทางออก ซึ่งผ่านบรรดาร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ แต่ว่าพวกเราไม่สนใจแล้ว เนื่องเพราะว่าเป็นเวลา ๑๑ โมงกว่า จึงมุ่งตรงไปยังร้านอาหารที่ได้จองเอาไว้ แทนที่เขาจะให้อยู่ทางด้านนอก กลายเป็นห้องพิเศษหมายเลข ๙ เลขมงคลเสียด้วย..!
พวกเราเข้าไปคุยกันสารพัดเรื่องที่ตบมุกหลอกน้องพอร์ช (เด็กชายเสฏฐ์ ชาครวิโรจน์) ลูกของคุณดาหวัน (นางสาวเพชรดาวัลย์ พัสลุผล) ซึ่งเรียนโรงเรียนนานาชาติแล้วพูดภาษาไทยไม่แข็งแรง คุณโบตั๋นยังพูดภาษาไทยเก่งกว่าเสียอีก ถึงเวลาเล่นมุกอะไรที่เป็นภาษาไทย คุณน้องก็ไม่เข้าใจเลยว่านี่คือ "แก๊ก" ของภาษาอังกฤษ ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาซักถามแบบเอาจริงเอาจังมาก ทำเอาบรรดาลุงป้าน้าอาหัวเราะกันกลิ้งอยู่ตรงนั้นเอง..!
เมื่อถึงเวลาอาหารก็ทยอยกันมา จานแรกก็ทำเอาหมอมุก (นางสาวรุจิรา งามพฤกษ์วานิชย์) กระพริบตาปริบ ๆ เพราะว่ามันก็คือ "หมูน้ำแดงซูตงโป" ที่พวกเราทุกคนเฮเข้าไปลุยกันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่กระผม/อาตมภาพทำการประเดิมแล้ว แต่ว่าคุณหมอมุกอยู่ในช่วงที่ลดน้ำหนัก อาจจะทำตาปริบ ๆ แอบชิมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กล้ากินเต็มที่นัก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-06-2025 เมื่อ 02:25
|