ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 22-06-2025, 01:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,226 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อพวกเรากลับขึ้นรถมา พร้อมกับสินค้าติดไม้ติดมือมา โดยแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีข้ออ้างว่า "มาช่วยทำให้เศรษฐกิจของจีนคล่องตัวขึ้น" โดยมีกระผม/อาตมภาพเป็นผู้คอยขัดคอ โดยเฉพาะคุณหมอมุก (นางสาวรุจิรา งามพฤกษ์วานิชย์) ลูกสาวของคุณนายสมหวัง (นางสมหวัง งามพฤกษ์วานิชย์) เมื่อถึงเวลาเดินตรงไปร้านชานมไข่มุก

กระผม/อาตมภาพก็ตะโกนห้ามว่า "คุณหมออย่าเข้าไป แถวนั้นอันตรายมาก..!" อีกฝ่ายหนึ่งก็ได้แต่หัวเราะแหะ ๆ ตัดใจเดินออกมา จนกระผม/อาตมภาพต้องบอกว่า "คุณหมอรีบไปฝึกสมาธิ เพราะว่าถ้ากำลังสมาธิสูงขึ้น เราจะสามารถห้าม รัก โลภ โกรธ หลง ได้ดีกว่านี้ แต่ว่าการฝึกสมาธิระยะแรกต้องระวัง ถ้าหากว่าคลายอารมณ์ไม่เป็น จะกลายเป็นเก็บกด ถึงเวลา รัก โลภ โกรธ หลง ตีเราพังลงไป ก็จะมาแบบฟ้าถล่มดินทลายเลย..!"

พวกเราวิ่งตรงมาถึงเมืองอู่เวยก่อนเวลา เนื่องเพราะคุณโบตั๋นบอกว่า "น่าจะถึงประมาณเที่ยงครึ่ง หลวงพ่อสามารถฉันอาหารเลยเพลได้หรือไม่ ?" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่ต้องกังวล เที่ยงครึ่งของประเทศจีนก็เพิ่งจะ ๑๑ โมงครึ่งของประเทศไทย" แต่ปรากฏว่าเราไปถึงแค่ ๑๑.๔๕ น.ของเมืองจีนเท่านั้น ก็เพิ่งจะ ๑๐.๔๕ น. ของเมืองไทยเท่านั้นเอง

ร้านอาหารเป็นของโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งจัดเอาไว้ให้พวกเราโต๊ะเดียวนั่งรวมกันทุกคน จึงได้มีคุณณรงค์ (นายฑนดล ภูมิธเนศ) กับ น้องพอร์ช (เด็กชายเสฏฐ์ ชาครวิโรจน์)มานั่งประกบซ้ายขวา เพราะว่าเป็นผู้ชายสองคนในคณะ เมื่ออาหารอะไรมาถึง กระผม/อาตมภาพก็ตักก่อน แล้วคนอื่นถึงจะตักกันต่อไป

แต่ว่ากับข้าวนั้นมาถึง ๑๐ อย่างด้วยกัน พวกเราจึงกินจนเหลือแล้วเหลืออีก ซึ่งบางคนก็บ่นว่าเราจะกินล้างกินผลาญแบบนี้ไม่ได้ แต่ลูกกิฟท์อธิบายว่า คนจีนนั้นกินอาหารมากกว่าเราหลายเท่า พอไปซื้ออาหารที่เมืองไทยก็มักจะบ่นว่า "ทำไมถึงให้น้อยนัก ?" ส่วนของเราพอมาซื้ออาหารที่เมืองจีนก็จะตกใจว่า "ทำไมเขาถึงให้มากนัก ?" ในเมื่อเขาจัดมาในลักษณะที่ให้คน ๑๓ คนแบ่งกันกิน เขาก็มาเต็มที่แบบคนจีนกิน แต่ถ้าเป็นคนไทยน่าจะเพิ่มคนได้อีกสัก ๓ เท่า ในเมื่อเหลือก็ต้องปล่อยให้เหลือไป..!

ครั้นพวกเราจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยก็กลับขึ้นรถ ตอนนี้ต้องขึ้นทางด่วน โดยบังคับให้รัดเข็มขัดทุกคน เนื่องเพราะว่าถ้าตำรวจตรวจเจอว่ารถที่ขึ้นทางด่วน ซึ่งอนุญาตให้วิ่งได้ ๑๐๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าไม่รัดเข็มขัดก็จะโดนปรับหนักมาก แล้วดีไม่ดีก็บันทึกประวัตินักท่องเที่ยวผู้นั้นเอาไว้ ถึงเวลาถ้าเข้าประเทศใหม่ อาจจะโดนปฏิเสธ โดยที่ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำไปว่าตนเองโดนปฏิเสธเพราะอะไร..?!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2025 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา